Basic HTML

บทเรียนในการศึกษาภาษา HTML ต่อไปนี้ มีความประสงค์จะให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนและทำความเข้าใจในการเขียนโค๊ดคำสั่งด้วยตนเอง จึงมีความจำเป็นจะต้องใช้เครื่องมือพื้นฐานที่มีอยู่แล้วให้เป็นประโยชน์มากที่สุด โดยไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย เมื่อทำความเข้าใจและเขียนโค๊ดได้ถูกต้องแม่นยำค่อยหาเครื่องมือมาช่วยอำนวยความสะดวกอีกที

  • เครื่องมือเขียนคำสั่ง เราจะใช้ Notepad เป็นหลักเพราะมีเป็นมาตรฐานอยู่แล้วในวินโดว์ทุกเวอร์ชั่น ท่านที่ใช้ลินุกส์ก็ใช้ Text Editor ในเครื่องได้เช่นกันนะครับ มีพร้อมกันแล้วและฟรี
  • เครื่องมือแสดงผล หรือบราวเซอร์นี่ก็มีพร้อมแล้วในวินโดว์ก็เป็น Internet Explorer หรือจะหันไปคบกับ Firefox เหมือนกับที่มีในลินุกส์ก็ย่อมได้ ฟรีอีกเหมือนกัน

ytTAGS : คำสั่ง หรือรูปแบบของคำสั่ง

คำสั่งพื้นฐานของภาษา HTML นั้นเข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อนประกอบด้วยเครื่องหมายน้อยกว่าและมากกว่าครอบคำสั่งที่ต้องการดังนี้ <คำสั่ง> คำสั่งส่วนใหญ่จะมีเป็นคู่ๆ เช่น <html> ... </html> เรียกว่าคำสั่งเปิดและคำสั่งปิด ต่างกันที่คำสั่งปิดจะมีเครื่องหมายสแลชนำหน้าคำสั่งเสมอ แต่จะมีบางคำสั่งที่เป็นคำสั่งเดี่ยวไม่มีคำสั่งปิด (เราจะได้ศึกษากันต่อไป)

<html>
      <head>
          <title>
              ข้อความที่ต้องการแสดงบนไตเติ้ลบาร์
          </title>
      </head>
      <body>
            ข้อความที่แสดงในส่วนเนื้อหา
      </body>
</html>
  • ส่วนประกาศ html เป็นส่วนที่กำกับหัวและท้ายไฟล์ด้วยคำสั่ง <html> ... </html> เพื่อให้บราวเซอร์ทราบและแปรผลได้ถูกต้อง ส่วนนี้ไม่มีเทคนิคพิเศษอะไรเพิ่มเติมอีก
  • ส่วนหัวเรื่อง head เป็นส่วนประกาศรายละเอียดของหน้าเว็บเพจที่สำคัญมาก ในการที่จะทำให้เว็บไซต์ของเราเป็นที่รู้จักต่อสาธารณะ และใส่เทคนิคพิเศษให้กับเว็บเพจได้ในส่วนนี้ แต่ดูเหมือนเว็บมาสเตอร์มือใหม่จะละเลยกันไปมากที่สุด
  • ส่วนเนื้อหา body เป็นส่วนที่มีรายละเอียดมากที่สุด และเป็นส่วนที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้มาก จะเป็นจุดขายหรือหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้สร้างเว็บไซต์ จะประกอบด้วย ข้อความ รูปภาพ และสื่อมัลติมีเดียต่างๆ

การเขียนไฟล์เว็บเพจตามตัวอย่างนี้ต้องใช้โปรแกรม TextEditor ที่มีภายในเครื่องแล้วคือ Notepad ซึ่งจะมีเทคนิคพิเศษในการใช้งานเพิ่มเติม [ คลิกอ่านที่นี่ ]

ytHEAD : รายละเอียดคำสั่งในส่วนหัว

คำสั่งที่อยู่ในส่วนหัวนี้จะอยู่ระหว่างคำสั่ง <head> ... </head> เราสามารถมองเห็นผ่านบราวเซอร์ได้เฉพาะข้อความบนไตเติ้ลบาร์ คำสั่งอื่นๆ นั้นจะทำงานในส่วนเบื้องหลัง แต่ก็มีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่ไม่ควรละเลย ประกอบด้วยคำสั่งต่างๆ ดังนี้

  1. หัวเรื่องบนไตเติ้ลบาร์ เป็นส่วนสำคัญที่จะบอกรายละเอียดของหน้าเว็บเพจนั้นๆ อยู่ภายในคำสั่ง <title> ... </title> จะต้องกำหนดเสมอและควรใช้ภาษาอังกฤษนำ สามารถใช้ภาษาไทยเป็นคำตามได้ แต่ต้องไม่ยาวเกิน 64 ตัวอักษร เช่น Make a home with HTML : สร้างเว็บสวยด้วยภาษา HTML (การนับตัวอักษรในคำภาษาไทยต้องนับสระบน/ล่าง/วรรณยุกต์ด้วย)
              ชื่อเรียกเว็บไซต์ที่ปรากฏบนไตเติ้ลบาร์ นอกจากจะนำมาใช้แสดงชื่อเรื่องของเว็บไซต์นั้นๆ แล้ว ยังเป็นข้อความที่จะถูกนำมาใช้เป็นคำสำคัญ (Keyword) ในการสืบค้นข้อมูลจาก Search Engine เสมอ
     
  2. การระบุอักขระภาษา เป็นส่วนสำคัญและจำเป็นสำหรับเว็บเพจภาษาไทย ทำให้ผู้ชมสามารถอ่านข้อความบนเว็บเพจเป็นภาษาไทยได้ทันที โดยเฉพาะการสร้างเว็บจากเครื่องมือสำเร็จรูปหลายๆ โปรแกรมที่มักจะทำการกำหนดให้เว็บเป็นภาษาของผู้พัฒนาโปรแกรม (อาจเป็นภาษาในยุโรป/อเมริกา/หรือภาษาอื่นๆ) ทำให้ผู้ชมไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ ดังนั้นผู้สร้างเว็บจะต้องทำการกำหนดค่าการถอดรหัสภาษาไทยไว้เลยในทุกๆ ไฟล์โดยใช้คำสั่ง Meta ระบุไว้ที่ส่วน Head เช่นเดียวกันกับไตเติ้ล ดังนี้
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=TIS-620"> หรือ
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=Windows-874">หรือ
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8">
                ให้เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง เว็บเพจที่สร้างขึ้นก็จะสามารถแสดงผลภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง ปัจจุบันนิยมใช้แบบที่ 3 เพื่อสนับสนุนระบบการแสดงผลหลายภาษา Unicode font
     
  3. ประกาศให้โลกรู้ ถึงแม้ว่าระบบการค้นหาของ Search Engine จะนำชื่อเรื่องของเว็บไซต์ไปเป็นคำหลักโดยอัตโนมัติแล้วก็ยังไม่เพียงพอ เพราะด้วยข้อจำกัดของจำนวนตัวอักษรและคำที่ใส่ลงไป ดังนั้นจึงต้องมีการกำหนดคำหลักให้กับหน้าเว็บเพจนั้นๆ โดยใช้คำสั่งที่มีรูปแบบเฉพาะไว้ในส่วน Head ถัดจาก Title เรียกว่าการใช้คำสั่ง Meta (ซึ่งจะไม่แสดงผลในหน้าต่างบราวเซอร์) ดังนี้
    <Meta name="X" content="Y"> (x และ y จะถูกแทนค่าด้วยข้อความ)
    • ถ้า X แทนค่าด้วยคำว่า Keyword ในส่วน Y จะแทนค่าด้วยคำหลักที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์นั้น คำหลักควรเป็นภาษาอังกฤษ (ใช้ภาษาไทยได้) สามารถกำหนดได้มากกว่า 1 คำ แต่ละคำจะคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค (,) เช่น
      <Meta name="keyword" content="html, web, page, website, home.">
    • ถ้า X แทนค่าด้วยคำว่า Description ในส่วน Y จะแทนค่าด้วยคำอธิบายที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์นั้น ควรเป็นภาษาอังกฤษ เขียนในรูปประโยคบอกเล่าสื่อความหมายถึงเนื้อหาในเว็บนั้นๆ เช่น
      <Meta name="Description" content="HTML is a wonderful language for internet communication.">
    • ถ้า X แทนค่าด้วยคำว่า Author ในส่วน Y จะแทนค่าด้วยชื่อของเจ้าของเว็บไซต์ หรือหน่วยงาน อาจระบุชื่ออีเมล์ไว้เพื่อให้สะดวกในการติดต่อกับผู้รับผิดชอบโดยตรง เช่น
      <Meta name="Author" content="Montree Kotkanta - krumontree @ gmail.com">
     
  4. เทคนิคพิเศษ เราสามารถใส่เทคนิคพิเศษต่างๆ เพิ่มเติมในส่วนนี้ได้ เช่น สคริปต์พิเศษแสดงวันเวลา การแสดงผลพิเศษ (เราจะได้ศึกษาเพิ่มเติมในบทต่อๆ ไป)
            นี่คือตัวอย่างของการแทรกคำสั่งต่างๆ ในส่วน head คุณสามารถเอาไปประยุกต์แก้ไขให้เหมาะสมกับเว็บเพจของได้เลย
<head>
    <title> Make a home with HTML : สร้างเว็บสวยด้วยภาษา HTML</title>
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=TIS-620">
    <meta name="keyword" content="html, web, page, website, home.">
    <meta name="description" content="HTML is a wonderful language for internet
        communication.
">

    <meta name="author" content="Montree Kotkanta - krumontree@gmail.com">
    <link href="htmlstyle.css" rel="stylesheet" type="text/css">
</head>

ytEND : สรุปคำสั่งที่ใช้ในบทนี้
TAGS รายละเอียด
<html> ... </html> กำหนดชนิดของไฟล์ให้ html
<head> ... </head> กำหนดส่วนหัวของไฟล์ เพื่อจัดเก็บรายละเอียดและชื่อไฟล์
<title> ... </title> การกำหนดชื่อไฟล์เพื่อแสดงผลบนไตเติ้ลบาร์ของบราวเซอร์
<meta> การกำหนดรายละเอียดของเว็บไซต์เกี่ยวกับการแสดงผลภาษาและคำอธิบายรายละเอียด คำค้นหาของเว็บไซต์

Click to TOP

Author : KruMontree Kotkanta     e-M@il : krumontree at gmail.com