|
หลังจากที่ กระทรวงศึกษาธิการ ต้องประกาศเลื่อนการเปิดเทอมแรก ปีการศึกษา 2564 ถึงสองครั้งสองครา มีหลายโรงเรียนต้องทำการเรียนการสอนด้วยรูปแบบที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน และเริ่มงงกับการดัดจริตใช้คำของผู้นำในวงการศึกษาประเทศสารขัณฑ์นี้ ตั้งแต่ On site, On hand, Online สารพัน ส่วนครูนั้น อ่อนแอ้แล้ หมดพลังไปเนิ่นนานแล้ว พอเริ่มเปิดภาคเรียนกันได้นิดหน่อยในบางโรงเรียนนอกเขตเมืองใหญ่ ลูกหลานเด็กๆ ได้อวดชุดนักเรียนใหม่ได้ไม่กี่วัน การเกิดคลัสเตอร์ใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จนเกิดการสั่งปิดแคมป์คนงานระยะยาวถึง 30 วัน ทำให้แคมป์แรงงานแตก คนงานกระจัดกระจายกลับบ้าน แล้วสิ่งที่ทุกคนคาดการณ์กันไว้แล้วก็เกิดขึ้นจริงๆ
ไม่ใช่แต่แรงงานกลับบ้านเท่านั้น แต่พวกเขาเอาพยาธิโควิดกลับมาแพร่สู่ครอบครัว ชุมชน ในต่างจังหวัดกันด้วย คราวนี้ประเทศไทยถูกตีแตกอย่างสมบูรณ์ ยอดการค้นพบผู้ติดเชื้อโควิดทั่วประเทศสูงขึ้นแตะหลักหมื่นในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว มีการค้นพบผู้ติดเชื้อเป็นเด็กนักเรียนในโรงเรียน ที่ได้สัมผัสกับผู้ป่วยที่เป็นญาติพี่น้องที่กลับบ้านมาจากแคมป์คนงาน โรงงานอุตสาหกรรม จนโรงเรียนต่างๆ ต้องสั่งปิดเรียนกันอย่างโกลาหล บางโรงเรียนเพิ่งจะเปิดเรียนเป็นวันแรกได้ไม่ถึงครึ่งวันด้วยซ้ำ ก็ต้องให้ผู้ปกครองต้องมารับลูกหลานกลับบ้านทันทีเพื่อหนีการแพร่ระบาดโควิด
เสียงร้องถามตามหลังผมมา ผู้ถามคงนึกว่าผมยังทำงานในโรงเรียนอยู่เลยถามอย่างนั้น หรือคิดว่าผมน่าจะรู้เพราะติดตามข่าวการศึกษามาโดยตลอด จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผมก็ตอบฟันธงลงไปไม่ได้ในขณะนี้ แม้ว่า... โรงเรียนจะเป็นนิติบุคคล มีคณะกรรมการสถานศึกษา มีชาวบ้าน ผู้ปกครองมาร่วมด้วยช่วยดูแลการศึกษาของลูกหลาน แต่นั่นก็เป็นเพียงในนาม ทุกอย่างยังคงต้องทำตามคำสั่งการของเบื้องบนโดยตลอด ทั้งๆ ที่เรื่องบางเรื่องนั้นโรงเรียนน่าจะสามารถวิเคราะห์ แก้ปัญหา ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาของตนเองด้วยตนเองได้ก็ตาม ในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้ ต้องแยกโรงเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม เพื่อดำเนินการที่แตกต่างกัน ไม่ควรเหมารวมให้เหมือนกันทั่วประเทศ
ความห่วงใยในการเปิดเรียนภาคการศึกษาใหม่ 1/2564 นี้ คงไม่มีอะไรมากไปกว่า "อันตรายจากโควิด-19" เป็นแน่แท้ โรคร้ายที่ลุกลามแผ่ขยายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วพร้อมกับการพัฒนาตัวเองให้แปรเปลี่ยน จากตัวเดิมเป็นสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่ระบาดได้รวดเร็วและรุนแรงมากยิ่งขึ้น จะเห็นได้ว่า การระบาดในรอบที่สามในประเทศไทยกระจายตัวรวดเร็วมาก น่าจะมาจากนอกประเทศทางฝั่งทิศตะวันออกจากเซียนพนันในบ่อนชายแดน มาสู่สถานบันเทิงในกรุงเทพฯ แล้วกระจายตัวออกไปสู่ต่างจังหวัด พอดีกับช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ เพียงแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น แผนที่ประเทศไทยที่แสดงการติดเชื้อจากสีขาว ก็เปลี่ยนเป็นสีเหลือง เขียว ส้ม และกลายเป็นสีแดงในทุกจังหวัดจริงๆ
ต้อนรับการเข้ามารับตำแหน่งของรัฐมนตรีใหม่หมาดกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องยอมรับในไม่ช้าว่า ต้องเลื่อนการเปิดภาคเรียนจากเดิม 17 พฤษภาคม ไปเป็นวันที่ 1 มิถุนายน ซึ่งก็ยังไม่แน่ว่าจะเปิดได้จริงไหม หรือจะต้องเลื่อนออกไปอีก เพราะสถานการณ์ในขณะที่เขียนบทความนี้คือมีรายงานการติดเชื้อมากขึ้นถึง 4,887 คน เสียชีวิตในวันนี้มากถึง 32 คน ด้วยวัยที่น้อยลงด้วย
เฮ้อ! เหนื่อย ว่าจะไม่บ่นแล้วแต่ก็อดไม่ได้ ด้วยสาเหตุปีการศึกษา 2563 "วงการครูท็อปฟอร์ม" จริงๆ ไม่เชื่อผมใช่ไหมลองไปถามเพื่อนกู(เกิ้ล)ด้วยคำว่า "ครูฉาว" ดูสิครับ มีตั้งแต่ผู้บริหารโรงเรียนไปถึงครูอัตราจ้างเลย แล้วจะได้ไม่ให้นักเรียนและผู้ปกครองเขาหน่ายแหนงได้อย่างไรกัน
การพัฒนาวิชาชีพก็อีกเรื่องหนึ่ง การรับ "ครู" และ "ผู้บริหาร" เข้าไปทำงานเพื่อสร้างเยาวชนของชาติ เปลี่ยนแปลงคุณภาพการศึกษามันก็อีกเรื่องหนึ่ง ถ้าเราไม่สามารถคัดกรองคนได้ ปัญหาทั้งหลายที่ท่านไปค้นหาพบนั้น ก็คงจะไม่มีวันหมดไปแน่นอน ยิ่งอยู่ในสภาวะสังคมที่ปากกัดตีนถีบอย่างนี้ บางคนก็ห่วงแต่สร้างภาพพจน์ ติดหรูกัน มันก็ยิ่งเพิ่มเหตุแห่งปัญหาเข้าไปไม่จบสิ้น
แน่นอนว่า "ครู" ในวันที่ผมก้าวเข้ามาสู่อาชีพนี้ การแข่งขันไม่มากนัก มีตัวเลือกที่ดี คนที่เรียนเก่ง เรียนดีจนเป็นแบบอย่าง จะเลือกเรียน "ครู" ไม่ใช่หมดทางเลือกค่อยมาเรียนครู การเล่าเรียนในสถาบันการฝึกหัดครูยุคนั้น ก็ร่ำเรียนในศาสตร์หลายสาขา ทั้งความรู้ในวิชาสามัญทั่วไป วิชาเอกที่ตัวเองคิดว่าถนัดและชอบ นอกจากนั้นยังเรียน จิตวิทยาการศึกษา วิธีการสอน การดูแลนักเรียนจำนวนมาก หลายวิชาและหลายหน่วยกิตด้วย
ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา ที่นี่ใช้คุกกี้ (Cookies) เก็บข้อมูล เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)