singapore on tour

singapore robocup logoวันนี้ ขออัพเดทข่าวสารจากการไปศึกษาหาประสบการณ์ในต่างประเทศนะครับ พอดีมีโอกาสได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมการแข่งขัน RoboCup 2010 Singapore ระหว่างวันที่ 19-25 มิถุนายน 2553 ที่ศูนย์ประชุม Suntec City ประเทศสิงคโปร์ครับ ออกเดินทางเมื่อเช้ามืด (07.05) วันที่ 19 มิถุนายน โดยสายการบิน AirAsia จากสนามบินสุวรรณภูมิ ถึงสนามบิน Shangi สิงคโปร์ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงเศษๆ ผ่านพิธีการทางศุลกากรและรอเด็กๆ ขึ้นรถบัสถึงที่พักก็ประมาณห้าโมงเช้า ทานข้าวกล่องกันที่ที่พัก จากนั้นก็แยกย้ายกันไปตามอัธยาศัย

sg plugทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันเดินทางไปดูสนาม และเตรียมการแข่งขันกัน ส่วนผมและคณะก็แยกไปเดินเที่ยวตามอัธยาศัย เวลาไม่มากนักเลยไปกันใกล้ๆ ที่พักแถว Mustafa (เจ๊เล้งแห่งเมืองลอดช่อง เปิดขาย 24 ชั่วโมง) มีสินค้าขายนานาชนิดเลยทีเดียวตั้งแต่หอมแห้ง พริกสด มะละกอ มะม่วง (อันนี้เห็นทั้งของไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย หอมชื่นใจ) ขนมขบเคี้ยว อาหารแช่แข็ง เครื่องสำอาง น้ำหอม ไปจนกระทั่งถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า ทองรูปพรรณ มากมายจริงๆ ได้ซื้อแค่ปลั๊กไฟฟ้าครับ เพราะดันลืมถือไปด้วยจากบ้านขั้วปลั๊กเขาไม่เหมือนเรา นอกนั้นก็เดินชมกันไป

ตอนเย็นก็กลับมารับประทานอาหารแถวๆ ใกล้กับที่พัก คิดถึงส้มตำ ไก่ย่าง บ้านเราจริงๆ รสชาดมันจืดชืดมากๆ ดีนะที่พอมีพริกน้ำปลาเข้าช่วยได้บ้าง อาหารที่นี่ค่อนข้างแพงเริ่มต้นที่ S$3 (1 สิงคโปร์ดอลล่า ก็ประมาณ 23 บาทเศษๆ มีขึ้นๆ ลงๆ ในแต่ละวัน) ไปจนกระทั่งเป็น 10 เหรียญเลยทีเดียว น้ำอัดลมกับน้ำเปล่าราคาพอๆ กัน ประมาณตั้งแต่ 1-2 เหรียญ ยังไงเราก็ขาดน้ำเปล่าไม่ได้ล่ะนะ ขวดใหญ่ 1.5 ลิตรก็ประมาณ 2 เหรียญ

ที่พักเราเลือกเป็นแบบ Hostel จะราคาย่อมเยาหน่อยประมาณ 20 เหรียญต่อคืนต่อคน มีแอร์คอนดิชั่นเปิดตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึงเที่ยงวัน ช่วงเวลาอื่นก็มีพัดลมเปิดได้ตลอด มีตู้เย็น เตาไมโครเวฟ เตารีด ทีวีเป็นส่วนกลาง พักได้หลายคน (คณะเราประมาณ 22 คนเหมาไว้เลย 1 ล็อก 2 ชั้น)

มีบริการอินเทอร์เน็ตให้ใช้งานเป็นเครื่องพีซี 2 เครื่อง พวกเราเอาไวร์เลสไปเสียบแชร์ใช้งานกันก็สะดวกขึ้นมานิดหน่อย พอได้อัพเดท ข่าวสารและส่งรูปภาพกลับบ้านกันได้

singapore 00

20 มิถุนายน 2553

วันรุ่งขึ้น เด็กๆ และครูที่ปรึกษาของทีมแข่งขัน เดินทางไปสนามแข่งขันเพื่อเตรียมหุ่นยนต์ และทดสอบสนามแข่งขันกัน คณะพวกผม 8 คนเป็นแค่ Visitor จึงยังไม่สามารถเข้าไปสังเกตการณ์ในสนามแข่งขันได้ ต้องรอในวันทำการแข่งขันจริง (วันที่ 21) เราถึงจะได้เข้าไปชม ก็เลยถือโอกาสไปท่องเที่ยวเมืองลอดช่องอีกวัน เริ่มจากไปพันทิพสิงคโปร์กันก่อน (Sim Lim Square) ด้วยรถแท็กซี่ (ที่เราสามารถเลือกใช้บริการได้หลายราคาและหลายยี่ห้อรถยนต์ โดยคิดราคาตามมิเตอร์ แต่ราคาเริ่มต้นจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับสภาพรถยนต์ ถ้ารุ่นเก่าๆ หน่อยจะสตาร์ทที่ 3 เหรียญ รถใหม่ที่นี่จะเป็น Hundai Sonata ราคาจะเริ่มที่ 4 เหรียญ แต่ถ้าใครอยากหรูนั่ง  Mercedes Benz C200 Kompressor ก็จะเริ่มที่ 5 เหรียญ) ทีมเราคิดว่าประหยัดไว้ก่อนเลยเลือกรถเก่าหน่อย แต่แอร์เย็นฉ่ำ คนขับเป็นมิตร พูดจาดีทีเดียว

ไปถึง  Mustafa จ่ายไป 4 เหรียญ 60 เซนต์ ที่นี่ก็มีสินค้าไอทีมากมายทีเดียวโดยเฉพาะ Notebook กับ iPhone มีคนสนใจใช้กันมาก ในขณะที่โทรศัพท์ประเภทที่รับชมโทรทัศน์ได้ ใส่กันได้ 2 ซิมที่นิยมในบ้านเรา กลับไม่ค่อยมีคนสนใจ ยิ่ง BlackBerry นี่ผมเห็นวัยรุ่นใช้กันน้อยมากเลย (ไม่เหมือนบ้านเราที่เห่อบ้าแชท ร่วมสังคมออนไลน์ติดอันดับโลกจริงๆ)

singapore 27

จากพันทิพเราจะเดินทางไปไชน่าทาวน์กัน แต่กลัวว่าถ้านั่งรถแท็กซี่ไปแล้วจะหากันไม่เจอ เพราะมีที่จอดรถหลายด้าน ถ้าตามกันไม่ทันจะยุ่งเลยนั่งแท็กซี่ไปที่สถานีรถไฟฟ้า Little India (ชื่อก็บอกอยู่แล้วย่านของคนอินเดีย) มองไปทางไหนก็มีแต่แขกดำ จริงๆ แล้วในสิงคโปร์จะมีคนจีนกับอินเดียนี่ล่ะมากสุด เราลงไปที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินกัน ซื้อตั๋วรถก็คล้ายๆ กับรถไฟฟ้าบ้านเรา เลือกสถานี หยอดเหรียญ หรือธนบัตรก็ได้ ระบบจะทอนเงินออกมาถูกต้องพร้อมบัตร จากสถานี Little India ไป China Town จ่ายไป 2.2 เหรียญ พอถึงสถานีปลายทางเราเอาตั๋วไปคืนที่เครื่องขายตั๋วจะได้รับเงินคืน 1 เหรียญ ตรงนี้ไม่สะดวกเหมือนบ้านเราตรงที่ต้องไปต่อแถวคิวยาว 2 ครั้ง

singapore 01

ร้านขายของที่ระลึกในไชน่าทาวน์แบบตลาดนัดบ้านเรา

พอตอนลงจากรถไฟฟ้าจะออกประตูไหนนี่ซิยุ่งเลย เพราะมีทางออกประมาณ 6-8 ช่องทางแล้วแต่สถานี มีทั้งฝั่งซ้าย ฝั่งขวา แต่ละฝั่งก็มีทั้งศูนย์การค้า ห้างหรู ร้านขายสินค้าแบบแบกะดิน เลยตัดสินใจโผล่ขึ้นไปดูก่อนค่อยว่ากัน ตอนแรกก็โผล่ไปเดินไชน่าทาวน์ติดแอร์ มีสินค้าสารพัด ราคาก็พอรับได้ แต่เขาว่าในฝั่งแบกะดินจะถูกกว่า เราเลยเดินข้ามไปอีกฝั่งกัน ก็ไม่ต่างกันมากนัก ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกของที่ระลึกชิ้นละ 1-4 เหรียญ และมักจะถูกบังคับแบบซื้อเหมาถูกกว่า เช่น ชิ้นละ 4 เหรียญถ้าซื้อ 3 ชิ้นราคาเหลือ 10 เหรียญ เป็นต้น

singapore 02

ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกและปลอดภาษี

singapore 03

ร้านอาหารตั้งกันกลางถนนเลยทีเดียวในวันหยุด

singapore 04

เหนื่อยและหิว เลยแวะทานน้ำแข็งไสชี้เอาตามรูปมันใส่ถ้วยนะ

singapore 05

แต่ตอนมาเสิร์ฟเป็นจานภูเขาอย่างที่เห็น

ราคาสินค้าชนิดเดียวกันจะไม่แตกต่างกันในแต่ละร้าน และมักจะต่อรองได้ไม่มากเท่าไหร่ เว้นแต่จะซื้อปริมาณมากๆ เดินชมเดินช็อปกันตามใจ เดินเหนื่อยก็จะมีร้านอาหารมากมายหลากหลายให้เลือกชิมกันได้ อาหารก็มีทุกชนิดตั้งแต่บะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวหมูแดง สะเต๊ะ แต่รสชาดจะไม่ถูกปากคนไทยนัก ต้องถามหาพริกหน่อยเพื่อเพิ่มความจัดจ้าน (Spicy Taste) ให้พอทนแม้ไม่ถึงใจแบบบ้านเรา คือมันขาดเครื่องปรุงประเภทน้ำส้ม พริกป่น น้ำตาล น้ำปลา ขนาดร้านที่ติดป้ายว่า Thai food ก็ยังไม่ค่อยได้เรื่องเลย

singapore 06

ร้านนี้มีเครื่องดื่มประเภทเบียร์เย็นๆ และอาหารทะเลบริการ

21 มิถุนายน 2553

วันนี้ไปที่ศูนย์ประชุม Suntec ซึ่งเป็นสถานที่แข่งขัน RoboCup 2010 Singapore เราต้องไปลงทะเบียนกันที่หน้างาน (ส่วนผม Register มาจากเมืองไทยแล้ว เพียงเอากระดาษที่ปริ้นท์บาร์โค๊ดมาแลกบัตรก็เรียบร้อย) การแข่งขันจัดเป็นหลายระดับตั้งแต่จูเนียร์ระดับประถม จนถึงมัธยมศึกษา และระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งชั้นที่ 4 จะเป็นการแข่งขันลีกมหาวิทยาลัยทั้งหมด ชั้นที่ 6 จะเป็นลีกประถมและมัธยมศึกษา ซึ่งมีการจัดการแข่งขันหลายประเภทเช่น การเตะฟุตบอล การกู้ภัย และที่น่าสนใจคือ Robo Dance (หุ่นยนต์เต้นรำ)

singapore 07

หน้าสถานที่จัดการแข่งขัน

singapore 08การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ รัฐบาลสิงคโปร์ทุ่มทุนสร้างจริงๆ ด้วยเงินลงทุนกว่าร้อยล้านบาท มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันมากกว่า 160 ประเทศ สนามแข่งขันแต่ละประเภทมากมายจริงๆ ประเภทเตะฟุตบอล มีมากกว่า 30 สนาม ประเภทกู้ภัยก็นับสิบสนามเช่นเดียวกัน ถ้าเป็นลีกระดับมหาวิทยาลัย การแข่งขันเตะฟุตบอลด้วยหุ่นฮิวมานอยด์ ก็มากมายนับสิบสนามเช่นเดียวกันดูเอาเองจากภาพด้านล่างนะครับ

ไปเห็นเขาแข่งระดับโลกแล้ว ก็นึกอนาจใจเหมือนกัน บ้านเราถือว่า จัดการแข่งขันได้ไม่เท่าเขาจัดแข่งระดับประถมด้วยซ้ำ เพราะ... พวกเรามัวแต่คิดถึงแต่เงิน กลัวโรงเรียนเล็กยากจนจะแข่งขันไม่ได้ (ซึ่งจริงๆ มันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้วล่ะ เพราะหุ่นยนต์ถ้าจะเอาให้ได้ชัยนี่มันลงทุนหลักพันไม่ได้ ทีมที่มาแข่งขันเท่าที่สอบถามลงทุนเฉพาะอุปกรณ์นับแสนบาท ถ้าหุ่นฮิวมานอยด์หลักล้านบาทครับ) พวกเรามัวแต่คิดถึงเอาท์พุท แต่ไม่ลงทุนในด้านอุปกรณ์ ความมั่นคงแข็งแรง การพัฒนาให้เกมการแข่งขันมันสนุก ดูแค่หุ่นยนต์เตะฟุตบอลของเรา พอลงสนามไปประทะคู่ต่อสู้แล้วหลุดกระจาย แตกหักกันง่ายมากๆ

ในขณะที่ของทีมต่างชาติเขาแข็งแรง วิ่งชนปังๆ ไม่มีหลุด ไม่มีการจำกัดขนาดมอเตอร์ ชนืดของแบตเตอรี วิธีการโมดิฟายด์ เรียกว่าใครคิดได้เท่าไหร่ใส่เข้าไป มีกติกาบังคับคือ ขนาดและน้ำหนัก ต้องไม่เกินที่กำหนด เรื่องอื่นๆ ถือเป็นการพัฒนาในทางวิทยาศาสตร์ ทั้งทางด้านเชิงกล พลังงาน และเวลาในการแข่งขัน เฉพาะเรื่องแบตเตอรี่เขาก็ไม่กำหนดไว้ บ้านเราต้องแบตอัลคาไลน์ ก็ไหนว่ารักษ์โลก อยากให้โลกสีเขียว ไอ้ถ่านอัลคาไลน์แข่งแต่ละครั้ง แต่ละทีมหมดไปเป็น กล่องใหญ่ๆ แล้วก็โยนทิ้งไปเกิดมลพิษเท่าไหร่ทำไมไม่คิดกันบ้างล่ะ

singapore 09

สนามแข่งขันกว้างขวางละลานตานับสิบๆ สนามเต็มไปหมด

singapore 10

สนามแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัย Rescuse ซึ่งเส้นสายค่อนข้างโหดมาก ต้องไต่ชันขึ้นไป

singapore 11

นี่หุ่นฮิวมานอยด์เตะฟุตบอลกัน มีหลายแบบนะครับน่ารักออก

singapore 12

ทีมนี้มาจากทางยุโรปตะวันออกใช้ Ubuntu เขียนโปรแกรมด้วยล่ะไปยืนดูอยู่นานเหมือนกัน

ในการแข่งขันครั้งนี้พวกหุ่นยนต์ต่างๆ ก็ดูมาหลายที่ก็งั้นๆ แหละครับเหมือนๆ กัน ขึ้นอยู่กับการโปรแกรมเป็นหลัก แต่ที่ดูสนุกกลับเป็นการแข่งขัน Robo Dance หรือหุ่นยนต์เต้นรำระดับประถมและมัธยมนี่แหละ อลังการงานสร้างกันจริงๆ ทั้งฉากประกอบความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบตัวหุ่นยนต์ให้ทำท่าทางต่างๆ เนื้อหาก็เป็นการนำเอาวัฒนธรรมท้องถิ่น การแสดงพื้นเมืองของแต่ละประเทศมาทำเรื่องสั้นๆ ใช้เวลาแข่งขันไม่เกินทีมละ 7 นาที

singapore 14

การแข่งขัน Robo Dance ที่ลงทุนกันมหาศาล

บางทีมก็หยิบเอาสถานการณ์ปัจจุบันเช่น การแข่งขันฟุตบอลโลก หรือภาพยนต์เรื่อง อวตาร มาสร้างก็มี พอช่วงเย็นๆ ก็ออกมาที่ศูนย์การค้า Esplanade เพื่อเดินเลียบริมอ่าวและที่ขาดไม่ได้ถ่ายภาพกับเจ้าสิงโตพ่นน้ำ MerLion ไว้เป็นหลักฐานว่ามาถึงเมืองลอดช่องแล้วจริงๆ

singapore 13

ถ่ายภาพยืนยันว่ามาเดินตกระกำลำบากแถวเมืองลอดช่องจริงๆ (ระยะทางไม่ต่ำกว่า 3 กิโลเมตรทุกวัน)

22 มิถุนายน 2553

วันนี้ไปที่สนามแข่งขันอีกรอบ การแข่งขันจะเหมือนกับวันแรก เป็นการแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมต่อเนื่อง เท่าที่ไปดูจะมีเฉพาะกลุ่มหุ่นยนต์กู้ภัยที่โจทย์ยากขึ้น ส่วนพวก Soccer เตะฟุตบอลก็แข่งเก็บคะแนนธรรมดาเหมือนเดิม ด้านการแข่งขัน Robo Dance ก็เป็นการแข่งขันสลับรอบจากเมื่อวานที่ใครแข่งเช้าเมื่อวาน ต้องมาแข่งบ่ายวันนี้ เพื่อให้กรรมการชมอีกรอบ แล้วนำคะแนนที่ได้ทั้งสองวันไปหาค่าเฉลี่ย

singapore 15

หุ่นยนต์แบบฮิวมานอยด์ที่ใช้ในการแข่งขันเตะฟุตบอล

singapore 16

การแข่งขันเตะฟุตบอลแบบ Virtual ที่เขียนโปรแกรมต่อสู้กันแบบเกมบนจอโปรเจกเตอร์ ใช้ Ubuntu

ก็เลยอยู่ที่นั่นแค่ภาคเช้า ภาคบ่ายไปตระเวนย่านถนน Orchard เจอแต่สินค้าแบรนด์เนมได้แต่ชม ไม่กล้าซื้อกลัวหนักกระเป๋า (จริงๆ แล้วไม่เหลือตังค์มากกว่า) เดินเหนื่อยก็นั่งพักผ่อนกันข้างถนน แทนที่จะหายเหนื่อยดันมาเมาควันบุหรี่ เพราะที่นี่ขี้ยาเยอะทั้งหญิงชาย สูบบุหรี่ในอาคารไม่ได้ก็มาพ่นกันริมถนน แต่แปลกที่ไม่ได้กลิ่นท่อไอเสียมากเหมือนกรุงเทพฯ รถราก็ไม่ได้ติดหนึบเหมือนบ้านเรา อากาศเย็นสบายเพราะมีสีเขียวของต้นไม้มาก เรียกว่าขอมีที่ว่างเป็นปลูกต้นไม้

singapore 17

ไอศครีม 1 เหรียญที่ต้องลอง เป็นแบบก้อนตัดเป็นชิ้นห่อด้วยขนมปังริมถนนออชาร์ด

singapore 25

ย่านช็อบปิ้งถนนออชาร์ด คล้ายๆ ถนนสีลมบ้านเรา

singapore 26

ที่นี่ก็มี Paaragon เหมือนกันนะ ขายสินค้าแบรนด์เนมทั้งหลาย

23 มิถุนายน 2553

วันนี้ไปเที่ยวที่ Sentosa (เกาะที่เกิดจากการถมทะเลเพื่อสร้างเมืองใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยว) เดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีม่วง (North-East) แล้วต่อด้วยรถไฟฟ้าแบบโมโนเรลจากสถานีเซนโตซาไปยัง Universal Studio ค่ารถไฟฟ้าโมโนเรล 3 เหรียญใช้ได้ตลอดทั้งวัน สำหรับค่าผ่านประตูเข้าไปเที่ยวในยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ 66 เหรียญ (ก็ทำนองเดียวกับดรีมเวิลด์ในเมืองไทยครับ) ที่นี่จะแบ่งเป็นโซนๆ ตามลักษณะของภาพยนต์ที่บริษัทยูนิเวอร์แซลสร้าง เช่น โซนนิวยอร์ค โซนไซไฟ (ภาพยนตร์จินตนาการทางวิทยาศาสตร์) จูราสซิคพาร์ค Water World, เทพนิยาย (Far Far Away) เป็นต้น

singapore 20

ทางเข้า Universal Studio ที่ใครๆ ก็ต้องถ่ายรูปเป็นที่ระทึกกัน...

singapore 18

บางเวลาก็จะมีตัวละครจากภาพยนต์เดินออกมาตามถนนทักทายเด็กๆ

singapore 19

บริเวณโซนไซไฟ (หนังวิทยาศาสตร์) อาคารก็จะเป็นแบบยานบินในละคร

ถ้าเป็นเด็กๆ ก็น่าจะสนุกกับเครื่องเล่นต่างๆ ที่มีอยู่ค่อนข้างมาก แต่เครื่องเล่นลอยฟ้าใหญ่สุดๆ กว่าบ้านเรานั้นปิดให้บริการ ทราบว่าปิดมานานซ่อมไม่เสร็จซักที ก็รายงานตามภาพนะครับ น่าจะดีกว่าคำบรรยายของผม

singapore 21

หน้าโซนอียิปต์จะมีหุ่นยักษ์เป็นยามเฝ้าประตูที่เก็บมัมมี่

singapore 22

จูลาสสิคปาร์คโซนที่เด็กๆ จะได้ผจญภัยกัน

singapore 23

Water World โชนการแสดงเทคนิคในภาพยนต์ ยิงกันสนั่นจอเลยทีเดียว

singapore 24

เครื่องเล่นยักษ์ใหญ่มาก แต่ยังไม่เปิดให้บริการเสียที

24 มิถุนายน 2553

วันสุดท้ายของการตระเวนสิงคโปร์ ทีมหุ่นยนต์ประเภท Soccer ของเราแพ้ เนื่องจากสู้ความแข็งแรงของหุ่นยนต์คู่ต่อสู้ไม่ได้ พังไปเสียก่อนเป็นที่น่าเสียดาย เพราะการโปรแกรมและเซนเซอร์ของเราดีมาก คงต้องปรับปรุงเรื่องโครงสร้างของตัวหุ่นในการปะทะให้ดีขึ้นในคราวหน้า แต่ประเภท Rescue Junior ทีม TPA2 จากโรงเรียนเตรียมทหาร ได้ลำดับที่สาม วันสุดท้ายของการแข่งขันทีม TPA2 จับคู่กับทีมจากประเทศจีนเข้าแข่งขันประเภท Rescue Robot Superteam สามารถคว้าชัยชนะเป็นที่หนึ่ง ก็ถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียวสำหรับการลงชิงชัยในเกมระดับโลกครั้งแรก ผลการแข่งขันประเภทอื่นๆ คงต้องติดตามจากเว็บไซต์ของการแข่งขัน www.robocub2010.org เพราะมันหลากหลายดูไม่ทั่วถึงครับ

singapore 28

หน้าพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ Singapore Science Centre

เราพอมีเวลาก่อนจะเดินทางไปที่สนามบินตอนหก โมงเย็น เลยนั่งรถไฟฟ้าไปชมพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ Singapore Science Centre ที่นี่จัดการแสดงได้น่าสนใจมากมีทั้งส่วนนิทรรศการกลางแจ้ง และนิทรรศการภายในแยกเป็นส่วนๆ เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์แยกเป็นเรื่องๆ ตั้งแต่ความรู้พื้นฐานไปจนถึงความรู้สมัยใหม่ ทุกอย่างจับต้องได้ เต็มไปด้วยการทดลองที่เด็กๆ สามารถเล่นได้อย่างสนุกสนาน

singapore 29

สวนน้ำกลางแจ้งที่เด็กๆ สามารถเรียนรู้ได้และสนุกสนานกับการเล่นน้ำ

singapore 30

การนำทฤษฎีวิทยาศาสตร์มาจำลองให้เห็นและทดลองได้ เช่น การสูบน้ำขึ้นสู่ที่สูง

singapore 31

ในห้องฉายภาพเกี่ยวกับรูปทรงเรขาคณิต เก้าอี้นั่งเรืองแสงมีรูปทรงต่างๆ น่าสนใจ

singapore 32

ส่วนแสดงสัตว์ดึกดำบรรพ์และฟอสซิล ที่จัดแล้วดูน่าสนใจมากมายทีเดียว

singapore 33

ส่วนแสดงเรื่องยีนส์และโครโมโซม มีทั้งภาพและเสียง วีดิทัศน์อธิบายทฤษฎีต่างๆ

singapore 34

ไวรัสและเชื้อโรครอบตัว ก็น่าสนใจเช่นเดียวกันมีการแสดงเชื้อที่ระบาดในปัจจุบันอย่างไข้หวัดนก

singapore 35

ตู้ Kios ที่แสดงเรื่องราวน่าสนใจฟากหนึ่งจะเป็นคำถามให้ชวนค้นหา ถ้าอยากได้คำตอบให้มาดูที่สื่อวีดิทัศน์อีกด้าน

singapore 36

สนามกลางแจ้งดูเหมือนของเล่น แต่ทุกการเคลื่อนไหวคือวิทยาศาสตร์

นอกจากนั้นยังมีโรงภาพยนต์แบบทรงโดมฉายเรื่องราวปรากฏการณ์ทาง วิทยาศาสตร์ โรงภาพยนต์ 3 มิติ จาก Pixar Art และเมืองหิมะให้ได้สนุกสนานอีกด้วย ค่าเข้าชมเฉพาะนิทรรศการ 9 เหรียญสิงคโปร์ ถ้าชมภาพยนต์ด้วย 15 เหรียญ ถ้ารวมเล่นเมืองหิมะด้วย 18 เหรียญ อยากให้พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์บ้านเรามีแบบนี้บ้าง อย่ามีแต่ป้ายห้ามจับ (Do not Touch) เต็มไปหมด เสียก็ซ่อมแซมครับ งบประมาณจากภาษีอากรของประชาชนต้องใช้ให้เกิดประโยชน์ การศึกษาทำให้ชีวิตมีคุณค่า ประเทศก้าวหน้ามั่นคงครับ

แล้วก็ถึงเวลาที่จะอำลาเมืองลอดช่อง กลับไปหาส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียวเสียที เพราะที่นี่อาหารรสชาดช่างจืดชืดเสียจริงๆ ครับ 

ครูมนตรี @สิงคโปร์
15 กรกฎาคม 2553