กว่าจะผ่านความโกลาหลของการเอนทรานซ์ด้วยระบบแอดมิสชั่น...

ไม่ได้อัพเดทเว็บนานทีเดียวเพราะต้องรอลุ้นด้วยความระทึกนานนับเดือน กับวิกฤตการณ์ของการประกาศผลคะแนนการสอบ ตั้งแต่ O-NET, A-NET ที่ล้มลุกคลุกคลานพร้อมเสียงสวดยับกันทั่วบ้านทั่วเมือง ด้วยบังเอิญที่ลูกชายผมก็เป็นหนึ่งในนักเรียนรุ่นหนูตะเพาทดลองระบบกับเขาด้วย ดีที่การประกาศผลของ A-NET, O-NET คะแนนไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือสูญหายไปเหมือนคนอื่นๆ แต่ก็ค่อนข้างจะเซ็งด้วยกันทั้งพ่อ-แม่-ลูก วันนี้ไม่ขอบ่นเรื่องคนอื่นพูดเรื่องตัวเองบ้างดีกว่า...

หลังจากที่ลูกชายได้ยื่นสมัครแอดมิสชั่นกลางไป เมื่อตอนกลางเดือนพฤษภาคม ก็เฝ้ารอการประกาศผลจาก กกอ. ด้วยใจระทึกเรื่อยมา จนถึงวันที่ 24 พฤษภาคม เปิดหน้าจอเช็คแล้วเช็คอีก (พร้อมกับการเลื่อนอีกครั้งเป็น 21 นาฬิกา) ก็คงจะเหมือนกับพ่อ-แม่คนอื่นๆ ที่เฝ้าห่วงใยอนาคตของลูกว่าจะเป็นอย่างไร?

หลังจากพยายามป้อนหมายเลขที่นั่งสอบ 7 หลัก และเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก อยู่ 3 รอบก็ทราบผล (สองรอบแรก... บอกไม่พบข้อมูลของบุคคลนี้ ใจเริ่มเสียเหมือนกัน แต่ด้วยความที่เคยทำเว็บเกี่ยวกับฐานข้อมูล และทราบว่าหากมีการรุมเรียกดูกันมากๆ ก็จะออกอาการเอ่ออย่างนี้ต้องลองใหม่) ผลคือได้รับคัดเลือกคณะ 1116 โล่งใจเสียทีครับ

ตอนนี้ก็ผ่านการสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว พร้อมจะเข้าเป็นนิสิตใหม่ คณะรัฐศาสตร์ สาขาวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย แล้ว แต่ลูกก็บ่นว่าเสียดายที่ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรม พิธีปฐมนิเทศนิสิตใหม่ พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเข้าเป็นนิสิตจุฬาฯ และงานรับน้องก้าวใหม่ เนื่องจากต้องทำหน้าที่ในงาน "นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี" (ที่เมืองทองธานี 26 พฤษภาคม - 4 มิถุนายน 2549) เป็น 1 ใน 60 คนของโครงการ "เด็กไทยรักในหลวง"

ในขณะที่นักเรียนส่วนหนึ่ง สมหวังกับสิ่งที่พวกเขาตั้งใจพากเพียรศึกษามา และต้องมาผจญกับปัญหาเรื่องระบบใหม่ที่ยังไม่กล้าเอ่ยได้เต็มปากว่า ดีกว่าเอนทรานซ์เดิมๆ ผู้ปกครองและนักเรียนอีกส่วนหนึ่งก็ต้องผิดหวัง จนถึงกับต้องประท้วงกันอีก เพราะมีข้อผิดพลาดจากการประกาศผลในครั้งนี้ ซึ่งคงจะต้องแก้ไขกันต่อไป [ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ] ในทัศนะของผม (จะผิดถูกอย่างไรก็โปรดพิจารณากันเองะครับ) เห็นว่าน่าจะต้องมีการปรับปรุงหลายๆ เรื่อง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น

ภาพการร่วมกิจกรรมโครงการ "เด็กไทยรักในหลวง"

• เรื่องกระบวนการสอบ O-NET, A-NET ที่ควรให้ความสำคัญกับเรื่องการแยกแยะสาขาวิชา ให้สอดคล้องกับการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย สอบในสิ่งที่เขาเรียนและถนัด ตรงกับคณะที่จะไปศึกษาต่อ
• มหาวิทยาลัยต้องประกาศให้ชัดๆ ว่าอยากได้เสากลมหรือเสาเหลี่ยม โรงเรียนจะได้กลึง (สอนนักเรียน) ให้ได้คุณสมบัติตามนั้นได้ (นั่นคือบอกมาเลยว่าเป็นหมอ วิศวกร สถาปนิก นักวิทยาศาสตร์ ฯลฯ ต้องเรียนอะไร สัดส่วนเท่าไหร่ เพื่อให้หลักสูตรแกนกลางทั้งระบบมันสอดคล้องต้องกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำแล้วโทษกันไปมาไม่สิ้นสุด)
• เรื่อง GPA/PR เป็นเรื่องดี ถ้ามีมาตรฐานมาควบคุมให้ได้มาตรฐานเท่าเทียมกันจริงๆ และใช้ในสัดส่วนที่ไม่มากเกินไป เพราะอย่างไรก็ตาม ทางด้านตักศิลา (มหาวิทยาลัย) ก็อยากได้หัวกะทิเข้าไปอยู่ในสำนักทั้งนั้น ถ้ายังดันทุรังเพิ่มสัดส่วนขึ้นไปอีก ปีหน้าโกลาหลกว่านี้แน่ เพราะมหาวิทยาลัยจะพยายามรับตรงด้วยการสอบเอง ไม่สนคะแนน O-NET, A-NET และเดี๋ยวนี้ถ้าใครผ่านบรรดาโรงเรียนกวดวิชา ก็จะพบคำโฆษณาว่า "กวดวิชาเพิ่มค่า GPA/PR, คอร์สเรียนเข้มเตรียมสอบ O-NET, A-NET" บอกได้เลย โรงเรียนกวดวิชาไม่มีวันตาย (The tutor is never Die.)
  ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้ ผู้ที่เดือดร้อนมากที่สุดคือพ่อแม่ผู้ปกครองและตัวนักเรียนเอง ที่จะต้องวิ่งรอกสอบตรงกันไปทั่วประเทศ ค่าใช้จ่ายบานตะเกียงแน่นอน
• เรื่องสุดท้ายคือ เรื่องการรับนักศึกษาของมหาวิทยาลัย น่าจะมีระบบที่ชัดเจนแน่นอนกว่านี้ เพราะปีนี้มีทั้งสอบโควต้าตรง (ส่วนใหญ่เอาคะแนนความเก่งการสอบล้วนๆ) มีแอดมิสชั่นตรง แอดมิสชั่นกลาง คนที่เก่งๆ ก็ติดมันทุกระบบไม่รู้จะเลือกอะไรดี กลายเป็นจุดบอดที่รับนักศึกษาได้ไม่ครบจำนวน และมีการสละสิทธิ์มาก และผลที่ตามมาคือ พลาดโอกาสทั้งหมด จนเกิดร้องเรียนกันนับร้อยรายหลังจากประกาศผลแล้ว

บทเรียนของปีนี้ จะต้องร่วมมือกันแก้ไขในการดำเนินการในปีหน้า ทั้งในส่วนรับผิดชอบของ สพฐ. ในเรื่องของข้อมูลนักเรียน ม. 6 การจัดทำค่า GPA/PR และปรับเกรดให้เป็น 8 ระดับ การจัดดำเนินการสอบของ สทศ. (ที่นับว่าสร้างปัญหามากที่สุด) ต้องเตรียมให้พร้อมมากกว่านี้ทั้งระบบการดำเนินงาน การประสานงานการสอบ ระเบียบวิธีปฎิบัติ กระดาษคำตอบ และที่สำคัญคือคนที่ปฏิบัติงานใน สทศ. ต้องรับผิดชอบในหน้าที่มากกว่านี้ และทาง กกอ. และ สกอ. ที่ต้องวางระเบียบให้ชัดเจนรัดกุม ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับผู้ปกครองและนักเรียนให้มากขึ้น

ครูมนตรี โคตรคันทา
บันทึกไว้เมื่อ : 27 พฤษภาคม 2549