Learning process 21th Century(ตอนที่ 2)

โดย สุทัศน์ เอกา

Brainstorming..การระดมความคิด.. ขั้นตอนที่ 3 ของการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21.

brainstorming 01ใน 2 ขั้นตอนแรก คือ การเตรียมตัวครู และ การสำรวจชุมชน เพื่อหาแรงบันดาลใจนั้น คุณครู-อาจารย์ทุกท่าน ได้ไป Exploring คือ “แต่ละท่าน” ได้มีการรวบรวมข้อมูล หรือ Data gathering มากพอที่จะกำเนินการ “ระดมความคิด หรือ Brainstorming” ได้แล้ว ดังนี้

คุณครูแบ่งกันออกเป็น “กลุ่มย่อย Subgroup” ตาม “รายวิชา และ ระดับชั้น” เช่น วิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ม.1 มีครูสอน 2 คน คุณครูสามคนนี้ก็เป็นกลุ่มย่อยๆ กลุ่มหนึ่งเพื่อ Brainstorming หรือ ถ้าเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีครูวิทยาศาสตร์ทุกระดับทั้งโรงเรียน เพียง 3 คน ทั้ง 3 คนนี้ ก็เป็นกลุ่ม Brainstorming… ในรายวิชาอื่นๆ ก็ทำเช่นเดียวกัน

การ Brainstorming เป็นกลุ่มย่อย ที่เรียกว่า “ Group Brainstorming” จะได้ผลดีกว่ากลุ่มใหญ่ และ ดีกว่าการทำงานคนเดียว

Group Brainstorming หรือ กลุ่มระดมความคิดนี้ จะสามารถใช้ประโยชน์จาก “ประสบการณ์ Experience” ได้อย่างเต็มรูปแบบ เพราะ “ความคิดสร้างสรรค์ creativity” ของสมาชิกคนหนึ่งๆ จะได้รับการ “ปรับปรุง Reform” และ “ต่อยอด continuing” จากความคิดสร้างสรรค์ของสมาชิกคนอื่นๆ ทำให้คนเราสามารถ “พัฒนาความคิดในเชิงลึก develop ideas in greater depth” การระดมความคิดนี้ ทำให้สมาชิกแต่ละคน “รู้สึกว่า Feel that” ตนเองมี “ส่วนร่วม” ในการแก้ปัญหา และทำให้รู้สึกว่า “คนอื่นๆ ก็มีความคิดสร้างสรรค์ที่มีคุณค่าเช่นเดียวกัน Reminds people that others have creative ideas to offer” การระดมความคิดนี้ควรเป็นไปในทาง “สนุกสนาน Brainstorming is also fun” และสามารถนำไปปรับใช่ในการพัฒนาการเรียนรู้ได้อย่างดีที่สุด

วัตถุประสงค์ของ “การระดมความคิด หรือ Brainstorming” คือ การสร้างสิ่งใหม่ที่เรียกว่า Innovation ซึ่งอาจเป็น สิ่งประดิษฐ์ใหม่ ความรู้ใหม่ แนวทางใหม่ๆ ในการเรียนการสอน ที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้ หรือ “สิ่งใหม่อื่นๆ Other Innovation”

brainstorming 02

ขั้นตอนในการ “ระดมความคิด หรือ Brainstorming” ประกอยด้วยขั้นตอนต่อไปนี้คือ 1. Exploring Data การแสวงหาข้อมูล และการจัดการข้อมูลของสมาชิกทุกๆ คน... 2. การพึ่งพาอาศัยกันของสมาชิกในกลุ่ม เรียกว่า Cooperative การพึ่งพาอาศัยกันของสมาชิกในกลุ่ม…. และ 3. Collaborative การทำงานร่วมกัน เพื่อให้ได้ “สิ่งใหม่ Innovation” ซึ่งในแต่ละขั้นตอน ล้วนมีความสำคัญต่อ “การเรียนรู้ Learning” ทั้งสิ้น “การจัดกระบวนการเรียนรู้ Learning Process” จึงไม่ควรข้ามขั้นตอน คือ

  1. Exploring Data การแสวงหาข้อมูล และการจัดการข้อมูลของสมาชิกทุกๆ คน ผู้เขียนขอเรียน “ย้ำ Emphasize” ว่า “ในหัวข้อเดียวกัน ในเรื่องเดียวกัน ในปัญหาเดียวกัน ในโครงงานเดียวกัน” สมาชิกทุกคน “ต้องรู้ปัญหาและหาข้อมูลรอบด้าน To know the issues and find out all Data” ไม่ควรแบ่งเนื้อหาเพื่อให้ภาระ Mission น้อยลง เพราะจะเป็นอุปสรรคต่อการ Brainstorming ที่ต้องอาศัยความคิดของแต่ละคนใน “ทุกๆ เรื่อง Everything” ซึ่งในข้อนี้ คุณครูทุกท่านได้ทำมาแล้ว ในขั้นเตรียมตัวครู และบัดนี้คุณครูมีข้อมูล Data อยู่ในมือครบถ้วน
  2. Cooperative การพึ่งพาอาศัยและช่วยเหลือเกื้อกูลกันของสมาชิกในกลุ่ม นี้เป็นเรื่องสำคัญมาก “ในการอยู่ร่วมกันอย่างมีสันติสุขในสังคมประชาธิปไตย To live together in peace of democratic society” สังคมมนุษย์อยู่ได้ด้วยการพึงพาอาศัยกัน และเติมเต็มให้แก่กันในเรื่องต่างๆ โรงเรียนต้องเป็นสังคมตัวอย่างแห่งความเอื้ออาทร และช่วยเหลือเกื้อกูลกันในทุกกรณี  เพื่อ “สร้างความกลมเกลียว ปลูกรักสามัคคี เรียกร้องเอาความเป็นพี่น้องผองไทยกลับคืนมาให้ได้”  จากประสบการณ์ความเป็น ครูมาตลอดชีวิต จนวันนี้ 70 กว่าๆ ฟันธงเป็นการส่วนตัวได้เลยว่า ความรักใครกลมเกลียวแบบ “พี่น้องผองครูในโรงเรียนสร้างความสำเร็จในการเรียนการสอนและพัฒนาโรงเรียน ให้สำเร็จตามความประสงค์แล้วกว่าครึ่ง” อีกเกือบครึ่งคือ หลักวิชาการ เราจึงเรียกร้อง “ความเป็นพี่น้องผองครูในโรงเรียนให้กลับคืนมา”
    การพัฒนาการเรียนรู้สู่ ศตวรรษที่ 21 นี้ก็เช่นกัน หากมีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน Cooperative ตั้งแต่ต้น งานก็ย่อมประสบผลสำเร็จไปแล้วกว่าครึ่งเช่นเดียวกัน และในวันนี้ ท่ามกลางความร้าวราน แบ่งแยกด้วยการโหมกระพือหว่านความเกลียดชังไปทั่วแผ่นดินของ กลุ่มผลประโยชน์ การเมือง โดยไม่เห็นแก่อนาคตของชาติ พวกเขาได้ปลูกสำนึกเลวร้ายลงไปในจิตใจของเยาวชน ชนิดที่ไม่ใส่ใจความรับผิดชอบ ก็มีแต่ คุณครู-อาจารย์ ในโรงเรียนเท่านั้น ที่จะเยียวยาแก้ไข ให้เยาวชนได้เป็นความหวังของชาติต่อไป
  3. Collaborative การทำงานร่วมกัน เพื่อให้ได้ “วิธีใหม่ ในการเรียนการสอน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างนวัตกรรม The beginning of innovation”

brainstorming 03

คุณครูทุกท่าน นำข้อมูล Data ทีได้รวบรวมมาจากการ Exploring อย่างรอบด้าน เข้ากลุ่มย่อยของตน ชี้แจง อภิปราย โต้แย้ง นำเสนอ บนพื้นฐานของข้อมูลของแต่ละคน จนสามารถสรุปได้อย่างคลอบคลุมทุกด้านของเนื้อหาวิชา เพื่อทำเป็นกิจกรรมการเรียนการสอน Teaching and Aearning Activities หาแนวทางจัดประสบการณ์ หรือ Experimental Approaches และวิธีการเรียนรู้ How to Learn สำหรับผู้เรียน เพื่อการออกแบบการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ ตามกระบวนการ Learning by Doing อย่างถูกวิธีต่อไป..

คุณครูควรทำการพิจารณาร่วมกัน หรือ Collaborative ดังนี้

  1. กิจกรรมการเรียนการสอน Teaching and Learning Activities ในแต่ละเนื้อหา ของแต่ละระดับชั้น ควรให้ผู้เรียนเรียนอย่างไร ใช้ PBL ประเภท “คำถาม หรือ โครงงาน เป็นฐานการเรียนรู้ Problem or Project Base Learning” หรือ จะเรียนแบบ Exploring Learning หรือจะเอาแบบ ใช้กิจกรรมเป็นฐานการเรียนรู้ คือ ABL ที่ย่อมาจาก Activity Based Learning หรือจะหาวิธีอื่นๆ ที่มีอยู่มากมายมาประยุกต์ใช้ Application of Learning
  2. หาแนวทางจัดประสบการณ์ หรือ Experimental Approaches แนวทางการจัดประสบการณ์นั้น การสร้างสถานการณ์ หรือ Situation เพื่อเป็นประสบการณ์แห่งการเรียนรู้ หรือ Learning Experience นั้นจะต้องเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับรูปแบบการเรียนการสอนที่กล่าวไว้ในข้อ ที่ 1. เช่น ถ้าเลือก PBL ที่ใช้ ปัญหาเป็นฐานการเรียนรู้ หรือ Problem Based Learning จะต้องจัดประสบการณ์การเรียนรู้ อย่างไร เพื่อให้ผู้เรียนสารถ “มีประสบการณ์การแก้ปัญหา Experience solution” นั้นๆ จนผู้เรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ขึ้นมาในตัวเอง
  3. วิธีการเรียนรู้ หรือ How to Learn นั้น ในการพิจารณาร่วมกัน หรือ Collaborative นี้ คุณครูจะต้องหา “วิธี How to” ให้ชัดเจนด้วยว่า ผู้เรียนจะเข้าไปมีส่วนร่วมในสถานการณ์นั้นๆ ได้อย่างไร How to participate in the Situation” นี้เป็นเรื่องสำคัญ

เมื่อคุณครูในกลุ่มย่อยนี้ ได้ระดมความคิด Brainstorming จนถึงขั้น Collaborative และทำสรุป แยกเป็นหมวดหมู่ เรื่องใด ระดับชั้นใด และโดยเฉพาอย่างยิ่ง “รูปแบบการเรียนการสอน Form of instruction” ที่ได้จากการระดมความคิด ว่าเนื้อหาส่วนไหน จะเรียนรู้แบบไหน How to Learn ผู้เรียนจะได้มีส่วนร่วม หรือ Experience Participation วิธีไหน เพื่อจะได้นำไป “ออกแบบการเรียนการสอน Learning and Teaching Design” เพื่อการปฏิบัติอย่างได้ผลในการเรียนรู้แห่งศตวรรษที่ 21 ต่อไป

brainstorming 04

ในกระบวนการเรียนรู้ของศตวรรษที่ 21 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งยึดถือแนวทาง “การสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง Constructivist Approach” อย่างเต็มรูปแบบนั้น ผู้เรียนจะเป็นผู้กำหนด “หัวข้อ และวิธีการเรียนรู้” เองทั้ง 3 ประการ แต่สำหรับประเทศไทยเราคงต้องการเวลาอีกสักระยะหนึ่งเป็นแน่

ในโลกแห่งการสื่อสารไร้พรมแดน และ เครื่องมือสื่อสารล้ำยุคนี้ การระดมความคิด Brainstorming ตลอดจนการทำงานร่วมกัน Collaborative สามารถทำได้ตลอดเวลา เรียกว่า Online Brainstorming และ Online Collaborative ที่ทุกคนไม่จำเป็นต้องอยู่ในที่เดียวกัน

ผมอยากให้คุณครู-อาจารย์ ทุกท่าน Online เรื่องการยกระดับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ให้มากกว่านี้ ครับ.....

ขั้นตอนการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ตอนที่ 1 | ตอนที่ 2 | ตอนที่ 3 | ตอนที่ 4