แอลกอฮอล์ เรื่องที่คุณอยากรู้แต่ไม่อยากถาม
รวบรวมและเรียบเรียงโดย : นพ. สมนึก ศรีวิศาล FRCR, FRCPC, St.Louis, MO, USA.
 
ตอนที่ ๑ : "Alcohol" : Thing you want to know but afraid to ask.

าจจะกล่าวได้ว่า แอลกอฮอล์ (Alcohol) ถือว่าเป็นยาตัวหนึ่งที่ได้ใช้กันมาเป็นเวลานาน นับเป็นพันปีเลยก็ว่าได้ :ซึ่งในปัจจุบันนี้อุตสาหกรรมเครื่องดื่มมึนเมานั้นมีขนาดใหญ่มาก ผลกระทบที่มีต่อสังคมและต่อบุคคลนั้นก็มีมากมาย ส่วนใหญ่เป็นไปในทางลบ บทความนี้หวังจะให้ผู้อ่านได้ความรู้และเผยแพร่แก่บุคคลใกล้ชิดรอบข้างที่จะเป็นพลังของชาติที่มีคุณภาพ เพราะเมื่อเรารู้ธรรมชาติ ความเป็นไปและคุณสมบัติของแอลกอฮอล์ รู้ผลดี (น้อย) และผลเสีย (มาก) ต่อร่างกายและสังคม เราก็จะได้รู้จักประพฤติตนเตรียมตัวรับมือหรือหลีกเลี่ยงเสีย เพื่อให้คุณภาพชีวิตของเราอยูในระดับดี ไม่ตกเป็นเหยื่อหรืออยู่ภายใต้อำนาจของมัน

            จริงอยู่แอลกอฮอล์ เป็นสารเครื่องดื่ม ที่สังคมยอมรับไม่ว่าจะเป็นสังคมชั้นไหนๆ เป็นเครื่องดี่มที่ใช้กันทุกระดับชนชั้น เป็นส่วนหนึ่งของยา เป็นส่วนหนึ่งของสารเคมี เช่น ใช้เป็นสารละลาย
            บทความนี้จะประกอบไปด้วย ความรู้ทั่วไปทีเกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ การเปลี่ยนแปลงในร่างกาย ผลที่มีต่อระบบของต่อมระบบต่างๆ ของร่างกาย และผลข้างเคียงที่เราไม่ค่อยจะรู้ (รายละเอียด) กัน

bottleความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ แอลกอฮอล์ (Alcohol)

Alcohol เป็นสารที่ประกอบด้วย Carbon (C) Hydrogen (H) และ ตัว OH (Hydroxy group)

  • หากมีคาร์บอน หนึ่งตัว ก็เรียกว่า Methy Alcohol CH3-OH ซึ่งที่เรารู้จ้กกันดี ก็คือที่เอามาใช้ทำความสะอาดแผล
  • คาร์บอนสองตัว ก็เรียกว่า Ethyl Alcohol C2H5-OH ซึ่งก็คือ ตัวที่เราเอามาใช้ดื่ม
            ตัวอื่นๆ ที่มี จำนวนคาร์บอน มากกว่า 2 เราก็จะไม่เอยถึงเพราะเราพบน้อย มาถึงตัวที่เราสนใจ คือ Ethyl Alcohol หรือที่ชาวเราเรียกว่า "สุรา แปลว่า เหล้า"นี่แหละ ในที่นี้ เราจะเรียกรวมว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้

  • เบียร์ ซึงได้มาจากการหมัก พวกข้าว เช่น ข้าวบาร์เล จำนวนน้ำหนักแอลกอฮอล์ประมาณ 3-6 กรัมต่อปริมาณ (100 cc) หรือนิยมเรียกว่า มีแอลกอฮอล์อยู่ 3-6%
  • ไวน์ ได้มาจากการหมักน้ำตาลของผลไม้ จำนวนแอลกอฮอล์มีประมาณ 12-14% มีไวน์ที่ทำให้เข้มข้น โดยเติมแอลกอฮอล์เข้าไปอีก ให้เป็น 18-20% ก็มี ส่วน ไวน์คูลเลอร์ (Wine Cooler) นั้น เขาผสมน้ำตาล ไวน์แดงหรือขาว เข้าไปด้วย มีปริมาณแอลกอฮอล์เท่ากับพวกเบียร์
  • เหล้า กลุ่มสุดท้าย ได้แก่พวกเหล้าดีกรีสูง เช่น whiskey ซึ่งได้จากการต้มกลั่นกันเลย พวกนี้ มีปริมาณแอลกอฮอล์ประมาณ 40-50%
แอลกอฮอล์ที่แปลว่าเหล้า         มีศัพท์อยู่อีกคำที่ใช้กันในแวดวงอุตสาหกรรมสุรา คือ proof เช่น บอกว่า เหล้านี้มี 80 % proof อันนี้มีค่าเท่ากับ ให้เอาจำนวน proof หารด้วย 2 จะออกมาเป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์ของแอลกอฮอล์ ฉะนั้น 100% proof ก็จะมีแอลกอฮอล์อยู่ 50%
        เพื่อให้ง่ายในการเปรียบเทียบ ระหว่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดต่างๆ ที่เขามักจะใช้ในการเปรียบเทียบ โดยใช้เรียกว่า "A drink" หรือ "One drink" นั้นเท่ากับ
  • 12 ounces of beer (4-6%) ~ 360 cc = (5% x 360) / 100 = 18 gm of alcohol
  • 4.5 ounces of wine (12-14%) ~ 140 cc = (13% x 140) /100 = 18.2 gm of alcohol
  • 1.5 ounce of distilled liquor( 40%) ~ 45 cc = (40% x 45) /100 = 18 grm of alcohol
  • (1 ounce ~ 30 cc)
Unit    Unit2

            ฉะนั้น จะเห็นว่า ดื่มเบียร์ 360 cc จะเท่ากับ ดื่มไวน์ 140 cc เท่ากับ ดื่มพวกวิสกี้ 45 cc ในแง่ของ จำนวนน้ำหนักของแอลกอฮอล์จริงๆ ที่เข้าไปในร่างกาย 360 cc มีปริมาณ ประมาณ 1 แก้วน้ำดื่ม อย่างน้ำดื่มขวดขนาดเท่ากับ 500 cc เท่าที่เคยเห็น

ส่วน 45 cc นั้น อันนี้ น่าจะเท่ากับ 1 เป็ก (แก้วใบเล็กๆ) ซึ่งสมัยก่อนที่บรรดาคอเหล้าขาวยี่สิบแปดดีกรี (รู้สึกจะเป็นของโรงสุราบางยี่ขัน) ชอบไปซื้อตามร้าน 1 กรึ้บเล็กๆ แล้วมักจะตามด้วยมะขามเปรี้ยว ตอนสมัยเด็กๆ จะเห็นว่าพอเวลาพวกกรรมกรดื่มของพวกนี้ เวลาที่มันผ่านคอ เขาทำหน้าเหยเก ทำให้นึกว่าทำไมเขาต้องกิน มันคงไม่อร่อยเลยในเมื่อกินแล้วมันทำหน้าเป็นอย่างนั้น

NextNext


ตอนที่ 1 | ตอนที่ 2 | ตอนที่ 3 | ตอนที่ 4 | ตอนที่ 5 | ตอนที่ 6 | ตอนที่ 7