|
ผ่านไปไวเหมือนโกหก 12 ปีกับอีก 5 เดือนที่เว็บไซต์ชื่อ "ครูมนตรีดอทคอม" ปรากฏขึ้น จากการเขียนขึ้นเพราะอึดอัดคับข้องใจ อยากตะโกนออกไปให้ดังๆ เผื่อจะกระทบหูผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองบ้าง ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาหลายยุค นับตั้งแต่การโค๊ดเขียนด้วยภาษา HTML ด้วยเครื่องมือเอดิเตอร์พื้นฐานอย่าง Notepad มาเป็นเครื่องมือช่วยอีกหลายตัวที่มีแจกให้ใช้กัน มาสู่ยุคการใช้ฐานข้อมูลกับเว็บไซต์สำเร็จรูปอย่าง Joomla 1.0 ผ่านร้อนหนาวมาจนถึงปัจจุบัน แต่เนื้อหาจุดหมายปลายทางไม่เคยเปลี่ยน "เว็บไซต์เพื่อนครูไทยหัวใจดอทคอม"
เอ่ยถึงวันวานเพราะอยากจะพูดถึงเรื่องเมื่อวานกับวันนี้ "เสียงบ่นครูมนตรี" ที่ดังมานานกว่า 12 ปีมาแล้ว ที่เคยคิดเคยบ่นไว้เพื่อช่วยหาทางออกให้กับการศึกษาไทย แต่ทุกอย่างก็ยังย่ำอยู่กับที่ แม้จะประกาศทำการปฏิรูปการศึกษามาแล้วกว่าทศวรรษก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยจริงๆ เอาล่ะถ้ามันจะเดินหน้าไม่ได้ก็ลองถอยหลังไปดูซิ ไปดูว่าสิ่งดีๆ ในอดีตที่เราเคยใช้จะเอามาประยุกต์ใช้ในวันนี้ได้ไหม
หลังจากปลุกปล้ำกับการกู้คืนข้อมูลของเว็บไซต์อยู่หลายวัน วันนี้พร้อมแล้วที่จะเดินหน้าต่อ ก็ไปเจอบันทึกจากการเป็นวิทยากร ของท่านอาจารย์ ดร.สุพักตร์ พิบูลย์ มาเห็นว่าน่าสนใจ ควรที่จะนำมาบอกกล่าวกัน เพื่อสร้างครูมืออาชีพ เป็นกำลังใจให้กับครูผู้มีอุดมการณ์ทั้งหลาย เพื่อการถ่ายทอดสู่ครูรุ่นใหม่ ให้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อการพัฒนาการศึกษาไทยต่อไป
วันนี้ (22 ธันวาคม 2557) ผมได้ไปเสวนากับคณะผู้บริหาร สพม.1 ณ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล เรื่อง แนวทางการพัฒนาสมรรถนะครูผู้ช่วย/ครูบรรจุใหม่ เพื่อก้าวสู่การเป็นครูมืออาชีพ จัดโดย สมาคมผู้บริหารสถานศึกษา กรุงเทพมหานคร นำโดยนายกสมาคม ผอ.สำเร็จ แก้วกระจ่าง ได้พูดคุยหลายเรื่อง อาทิ
จากข่าวการศึกษาข่าวนี้ "“กมล”ยอม รับ 1 ใน 3 ของเด็กป.3 อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เตรียมตั้ง กก.ยกระดับการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนครบวงจร ดันฟื้นสอบตกเรียนซ้ำชั้น" เป็นที่ฮือฮา ถูกอกถูกใจบ้าง ขัดใจกันบ้าง จนมีประเด็นเอามาถกกันในรายการโทรทัศน์เมื่อวานนี้ รายการ "คมชัดลึก" ทางช่องเนชั่นทีวี ใครจะดูย้อนหลังก็คลิกที่ลิงก์ได้เลยนะครับ ดูจนจบก็มีส่วนหนึ่งที่ผู้ร่วมรายการตอบ เป็นหนทางที่ถูกต้อง แต่ก็ไม่ทั้งหมด เพราะบริบทในต่างถิ่นต่างที่ย่อมต้องมีวิธีการที่ต่างกันออกไป ส่วนพิธีกรคุณจอมขวัญ หลาวเพชร์ ต้องบอกว่าทำการบ้านมาไม่ดีพอ สิ่งที่เธอถามมันเป็นมุมมองของคนเมือง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นและยังเป็นปัญหานั้นส่วนใหญ่อยู่ในชนบท
การแก้ปัญหาการอ่านออกเขียนได้นั้น ต้องแก้หลายอย่าง ตั้งแต่โครงสร้างหลักสูตรที่ยัดเยียดทำระบบอุตสาหกรรมการศึกษา ต้องยกออก ครูต้องได้รับการกระตุ้นและพัฒนามากกว่านี้ หน่วยเหนือเลิกบ้านโยบายเหวี่ยงแหเสียที การศึกษาไม่ใช่การปลูกผักบุ้ง หรือเขาไม่เคยอ่านกล่อนของ มล.ปิ่น มาลากุล มาก่อนหรือไร?
ขอได้โปรด..ทำความเข้าใจว่า
Knowledge, Understanding, and Wisdom.. ความรู้ ความเข้าใจ และปัญญา.. มีคุณค่าต่างกันอย่างไรอย่างไร
ความรู้ Knowledge ได้มาจาก “ประสาทสัมผัส Sensetion” ของคนเรา “ผัสสะ Contact” หรือปะทะกับสิ่งที่อยู่รอบตัว แล้วเกิดความจำได้หมายรู้ในสิ่งนั้นๆ เช่น ตาเห็นรูปหรือสิ่งของที่สวยงามต่างๆ ก็เกิดความรู้ว่าอะไรงาม อะไรไม่งาม หูได้ยินเสียงก็เกิดความรู้ว่าอย่างนี้ไพเราะ เช่น คำชมเชย ยกย่อง เอาส่วนดีมากล่าว น่าฟัง น่าเข้าใกล้และเสริมกำลังใจ ตรงกันข้าม การดุ ด่า ว่า กล่าวโทษ และประจาน อย่างนี้ไม่ไพเราะ ไม่น่าฟัง เกิดการ “ต่อต้านและเกลียดชัง Against and Hatred” ทางอื่นๆ ที่เหลือ เช่นจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจก็เกิดความรู้ได้ในลักษณะเดียวกัน
นี่เป็นการสร้างความรู้ตามธรรมชาติ ถูกต้องและดีที่สุด ในกระบวนการเรียนรู้ ด้วยความรู้ธรรมชาติเช่นนี้เอง จึงได้มีการออกแบบการเรียนการสอน หรือ Learning and Teaching Design ตามหลักทฤษฏีของกลุ่ม Constructivism Theory
ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา ที่นี่ใช้คุกกี้ (Cookies) เก็บข้อมูล เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)