99/169 Sarin7 UBN 34190 081 878 3521 This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. Everyday : 09:00am-05:00pm
"ครูที่ดีย่อมไม่ฆ่าเวลาศิษย์  สำนึกผิดทิ้งเด็กไว้มิได้สอน  หนึ่งนาทีนั้นมีค่าอย่าตัดรอน  เมื่อศิษย์อ่อนจะโทษใครให้คิดดู"   มล.ปิ่น มาลากุล

วันไหว้ครู กับ วันครู

wai kru 2568

รู้จักความต่างของวันครูกับวันไหว้ครู

16 มกราคม ของทุกปี นับเป็นหนึ่งในวันสำคัญในวงการศึกษา จะได้มีโอกาสรำลึกถึงคุณครูผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาต่างๆ ให้เรา เนื่องจากตรงกับ "วันครูแห่งชาติ" ถูกกำหนดให้จัดขึ้นจากคำปราศรัยของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ ที่ได้นำเสนอในที่ประชุมผู้แทนคณะครูทั่วประเทศในคราวประชุมวิสามัญของคุรุสภา เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2499 ให้มีวันครูขึ้น เพื่อรำลึกถึงความสำคัญของครู จนกระทั่งวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2499  คณะกรรมการอำนวยการคุรุสภา ก็มีการประกาศอย่างเป็นทางการให้วันที่ 16 มกราคม ซึ่งเป็นวัน ประกาศพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช 2488 ในราชกิจจานุเบกษา เป็น “วันครู” นั่นเอง 

วันครู

ตรงกับทุกวันที่ 16 มกราคมของทุกปี เป็นวันที่มีวัตถุประสงค์เพื่อระลึกถึงพระคุณของบูรพาจารย์ ส่งเสริมความสามัคคีและความเข้าใจอันดีของครูและประชาชน และยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพครู นอกจากนี้ยังเป็นวันที่ครูได้มาพบปะแลกเปลี่ยนเพื่อถ่ายทอดชีวิตของการเรียนการสอนเด็กๆ ในโรงเรียน รวมถึงสวัสดิภาพของครูในปัจจุบันและอนาคตด้วย

วันไหว้ครู

wai kru 3

ส่วนในวันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมาเป็น "วันไหว้ครู" ซึ่งคนส่วนใหญ่มักคุ้นเคยกับวันสำคัญนี้ เพราะมีกิจกรรมที่นักเรียนไทยทุกคนเคยสัมผัสคือการจัดพานไหว้ครู เพื่อนำไปประกอบพิธีไหว้ครู และประกวดการแข่งขันระหว่างชั้นเรียน (แต่ก็มีการแอบแซวด้วยนะว่า ครูบางคนต้องอดตาหลับขับตานอน ทนนั่งหลังขดหลังแข็ง ทำพานทั้งคืน เพื่อให้นักเรียนถือมาไหว้ตนเอง ไม่ว่ากันเด้อ เด็กอนุบาล เด็กประถมศึกษาตัวเล็กๆ ยังทำพานไม่เป็นไม่สวย เมื่อมีการประกวดพานสวย ครูประจำชั้นจะเสียหน้าไม่ได้ 😁😅😂🤣)

แต่ในวันไหว้ครูนี้ ที่จริงแล้วไม่มีกำหนดวันที่แน่ชัดในแต่ละปี แต่มักจัดในช่วงหลังเปิดภาคการศึกษาใหม่ หรือ วันพฤหัสบดีที่สองของเดือนมิถุนายน ซึ่งตรงกับช่วงเปิดภาคเรียนปีการศึกษาที่ 1 ของโรงเรียนในสังกัดคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ โดยในปีนี้จะตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2568 วัตถุประสงค์ในการจัดงาน เพื่อให้เป็นวันที่ลูกศิษย์พร้อมใจกันทำพิธีไหว้หรือบูชาครู เพื่อระลึกถึงพระคุณของครูผู้ให้การอบรมสั่งสอนก่อนเริ่มการเรียนการสอนในปีนั้นๆ

ทั้งหมดนี้คือความแตกต่างระหว่างวันไหว้ครู และวันครู กล่าวโดยสรุปสั้นๆ คือ วันไหว้ครู เป็นวันที่จะมีพิธีกรรมทางศาสนา เพื่อระลึกถึงพระคุณของครูก่อนเริ่มต้นปีการศึกษา ขณะที่ วันครู เป็นวันที่ระลึกถึงพระคุณของบูรพาจารย์ เพื่อส่งเสริมความสามัคคีและความเข้าใจอันดีของครูและประชาชน

วันไหว้ครู เป็นกิจกรรมหนึ่งที่สถาบันการศึกษาทุกระดับทุกแห่งจัดขึ้นในช่วงต้นๆ ของปีการศึกษา สะท้อนถึงคุณค่าทางจิตใจของคนไทย

  • สะท้อนถึงความผูกพันใกล้ชิดระหว่างครูกับศิษย์
  • สะท้อนให้เห็นถึงความกตัญญูรู้คุณของสังคมไทยต่อผู้มีพระคุณ
  • สะท้อนให้เห็นถึงความรัก ความเมตตา ของครูต่อศิกษย์
  • สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนทางจิตใจ
  • แฝงสาระที่เป็นคติธรรมสอนใจมากมาย

wai kru 1

ประเพณีการไหว้ครู ถือเป็นเอกลักษณ์ทางประเพณีอันดีงามของชาวไทย ที่ศิษย์ให้ความเคารพเทิดทูนคุณครูบาอาจารย์ ผู้ถ่ายทอดสรรพวิชาความรู้ให้กับศิษย์ ด้วยความรัก ความเมตตา และปรารถนาดี ครูจึงเป็นบุคคลที่มีความสำคัญ มีคุณค่าต่อประเทศชาติ เพราะในอดีตกาล หนังสือหรือสื่อการเรียนการสอน ยังไม่มีแพร่หลาย ดังนั้นความรู้จากแหล่งเดียวที่ศิษย์จะได้รับคือ ความรู้จากบุคคลผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญซึ่งเราเรียกว่า “ครู” ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านไปจวบจนปัจจุบัน เทคโนโลยีมีความเจริญก้าวหน้าขึ้น หนังสือหรือสื่อการเรียนการสอนมีแพร่หลายแล้วก็ตาม คนไทยยังคงให้ความสำคัญกับครูอยู่จนถึงปัจจุบันด้วยเพราะเหตุผลที่ว่า ความรู้ที่ถ่ายทอดจากบุคคล เป็นความรู้ที่เป็นทักษะเฉพาะ เป็นเทคนิคพิเศษที่เกิดจากการสั่งสมความรู้ ประสบการณ์และการปฏิบัติจนเชี่ยวชาญ ที่ไม่สามารถถ่ายทอดด้วยตัวหนังสือหรือสื่อใดๆ ได้ และที่สำคัญคนไทยยังคงให้ความสำคัญกับครู จนเปรียบครูเป็นเสมือนแม่คนที่ 2 ของศิษย์ เพราะศิษย์ที่ประสบความสำเร็จได้ ด้วยเพราะมีแม่เป็นผู้ให้กำเนิด มีครูเป็นผู้ให้ความรู้ ความคิด สติปัญญาชี้ทางสว่างให้กับชีวิตนั่นเอง ประเพณีการไหว้ครูจึงยังคงสืบทอดต่อมาจนกระทั่งทุกวันนี้

ในการจัดงานไหว้ครูในโรงเรียนหรือสถานศึกษา มีลำดับขั้นตอนดังนี้

  1. ประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และนมัสการพระพุทธรูปที่โต๊ะหมู่บูชา
  2. ประธานเริ่มพิธีการสวดมนต์
  3. ผู้นำสวดกล่าวคาถาไหว้ครู
  4. ตัวแทนนักเรียนกล่าวคำปฏิญาณตน ตัวแทนนักเรียนแต่ละห้องนำพานมอบให้ครู
บทสวดบูชาครู

(ผู้นำสวด)

ปาเจราจริยาโหนติ คุณุตตรานุสาสกา

สวดทำนองสรภัญญะ สวดพร้อมกัน

ข้าขอประณตน้อมสักการ บูรพาคณาจารย์
ผู้กอรปประโยชน์ศึกษา
ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา อบรมจริยา
แก่ข้าในกาลปัจจุบัน
ข้าขอเคารพอภิวันท์ ระลึกคุณอนันต์
ด้วยใจนิยมบูชา
ขอเดชกตเวทิตา อีกวิริยะพา
ปัญญาให้เกิดแตกฉาน
ศึกษาสาเร็จทุกประการ อายุยืนนาน
อยู่ในศีลธรรมอันดี
ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี
แก่ชาติและประเทศไทยเทอญฯ

(ผู้นำสวด)

ปัญญาวุฒิกเร เต เต ทินโนวาเท นมามิหัง

wai kru 2

สำหรับพานไหว้ครู แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปเช่นไร มีการจัดตกแต่งพานสวยงามรูปแบบต่างๆ แข่งขันประกวดประชันกัน แต่ในพานไหว้ครู และกรวยไหว้ครู มักจะประกอบด้วยดอกไม้ไหว้ครูที่มีความหมาย ดังนี้

  • หญ้าแพรก หมายถึง ความเจริญ งอกงาม เปรียบเสมือนปัญญาของนักเรียน
  • ดอกมะเขือ หมายถึง ความอ่อนน้อม พร้อมจะเรียนรู้วิชาต่างๆ จากครู
  • ดอกเข็ม หมายถึง สติปัญญาที่แหลมคม และวิชาความรู้อันมีรสหวานเหมือนน้ำหวานของดอกเข็ม
  • ข้าวตอก หมายถึง ระเบียบวินัย การรู้จักควบคุมตนเอง เพราะถ้าไม่รู้จักควบคุมตัวเองจะเป็นเพียงข้าวเปลือกที่ถูกคั่ว แต่เป็นข้าวตอกไม่ได้
  • ดอกบานไม่รู้โรย หมายถึง การเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด เป็นดอกไม้สีม่วงที่มีความหมายดี และอาจหมายถึง ความรักที่มีต่อครูอย่างไม่รู้โรยรา

ทั้งวันครูและวันไหว้ครู สำหรับคนไทยแล้วเป็นเรื่องปรกติธรรมดา ได้เห็น ได้เข้าร่วมพิธี จนถึงขั้นชินตากันบ้างแล้ว แต่สำหรับชาวต่างชาตินี่แตกต่างเลย โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่มาเป็น "ครู" สอนในโรงเรียนหรือสถานศึกษาไทย หลายๆ คนต้องหลั่งน้ำตาด้วยความซาบซึ้งใจเมื่อลูกศิษย์ตัวเล็กตัวน้อยมาไหว้ครู แล้วต่างประเทศเขามีวันครูไหม? มีครับ มี วันครู Teacher's Day เหมือนกัน

kru farang teacher day

วันครูในโรงเรียนที่ต่างประเทศก็จะเป็นบรรยากาศแบบว่า นักเรียนชั้นระดับสูงสุด Grade12 จะคัดคนมาทำหน้าที่ครูแต่ละท่าน  การคัดเลือกก็จะพยายามคัดคนที่มีบุคลิก ใกล้เคียงกับครูจริงๆ มากที่สุด เมื่อคัดตัวได้แล้ว ก็จะมาทำหน้าที่ครูแทน/เลียนแบบ ครูจริงๆ 1 วัน  ก็จะมีการเข้ามาสอนตามห้องเรียน ตามวิชาที่เรียน หลายคนจะเลียนแบบบุคลิกของครูนั้นๆ บางคนก็วางมาดเข้ม บางคนก็จะเคร่งขรึม บางคนก็สบายๆ  แล้วก็เริ่มสอน  ส่วนครูตัวจริงของจริงก็จะเข้ามานั่งสังเกตุการณ์ในห้องเรียนด้วย 

พอครูปลอมสอนได้สักพัก ก็จะเริ่มเจอนักเรียนแซว เจอนักเรียนถามคำถามนอกลู่นอกทาง เจอครูจริงถามบ้าง ครูปลอมตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง สอนไปสอนมาก็หลุดขำฮาแตก กันเต็มห้อง  สนุกสนานกัน ครูปลอมบางคน ก็จะให้ครูจริงขึ้นมายืนที่หน้ากระดาน แล้วก็มอบคำถามให้ตอบบนกระดาน  แต่จะเป็นคำถามที่ คนละสายวิชา ครูจริงก็ตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง ไอ้เจ้าครูปลอมก็จะทำหน้าโมโห เอาชอล์กก้อนเล็กปาใส่ครู  บางคนก็ปาเฉียดๆ บางคนก็ปาโดนจริงๆ แต่ปาเบาๆ  แล้วก็ตลกกันไป

ครูจริงก็สนุกสนาน ครูปลอมก็วางมาดซะเกินเบอร์ครูจริงไปก็มี  นักเรียนก็สนุกสนานกัน ใครที่มันเขี้ยว อยากจะเล่นหัวครูจริง  ก็มาลงกับครูปลอมกันเต็มที่ ทั้งตบหัวเล่นหัว ทั้งแกล้งเตะแกล้งถีบ  ครูปลอมก็จะทำหน้าดุๆ แต่ก็แป๊บเดียวหลุดขำ 

kru farang wai kru

วันครู  ครูจริงๆ จะไม่ได้สอนอะไร  มาทำหน้าที่เป็นนักเรียนประจำห้อง คอยสังเกตุการณ์หรือไม่ก็ทำตัวเป็นนักเรียน   นักเรียนหลายคนก็จะแกล้งทำเป็นเพื่อน เดินมากอดคอ เดินมาพูดเล่น เรียกชื่อครูเหมือนเรียกเพื่อน  ไม่มีการเรียกเป็นทางการ Sir/Ma'am เลยในวันครู

ครูจริงจะไม่ถือสาอะไร สนุกสนานกับเด็กๆ ไป ซึ่งก็เป็นการซื้อใจนักเรียน  นักเรียนจะมีความรักมีความเคารพครูมากขึ้น เพราะความสัมพันธ์ มันไม่ได้ห่างกัน เป็นแบบครู-นักเรียน แต่เป็นแบบเพื่อนกัน ประมาณนั้น 

จะมีคนทำหน้าที่เป็นครูใหญ่ประจำโรงเรียนด้วยนะ บุคลิกมาดจะต้องดุต้องเข้มแบบครูใหญ่ของจริงๆ  คนทำหน้าที่นี้นี่แหละที่จะโดนนักเรียนแกล้งมากที่สุด  นักเรียนหลายคนจะเข้าไปฟ้องครูใหญ่ ฟ้องเรื่องไม่เป็นเรื่อง เช่น "ครูครับ หมามันมองหน้าผม ครูไปจัดการมันเลยครับ"  ฟ้องเรื่องไร้สาระอะไรพวกนี้  สนุกสนานกันไป

บางประเทศก็ไม่ได้มีบรรยากาศอะไรมากมาย ใน วันครู  ก็อาจจะมีการ มอบเกียรติบัตรให้ครู มอบของขวัญให้ครู อะไรเรียบง่ายๆ แบบนี้แค่นั้น

ความรู้สึกของคนต่างชาติ

ขอเล่าเรื่องเพื่อนต่างประเทศ​ที่รู้จัก เช่น ชาวอังกฤษ อเมริกา​ แคนาดา ฟิลิปปินส์ จีน และเวียดนาม​ ที่มาสอนภาษาในไทย ต่างพูด​เป็นเสียงเดียวกัน​ว่าประทับใจงานวันไหว้ครู​ที่ไทยมาก เล่าไปด้วยร้องไห้ไปด้วย ครูต่างชาติที่มานั่งรอบนเวทีรอให้เด็กกราบ (ตามคำเชิญของผู้บริหารโรงเรียน) แรกๆ ก็ทำหน้าตาเด๋อๆ ด๋าๆ แบบคนตื่นเต้น ทำอะไรไม่ถูก

wai kru farang

พอเด็กก้มลงกราบที่เท้า ครูก็อ้าปากค้าง มือไม้รู้สึกเกะกะไปหมด แต่แววตาตื่นเต้น (ปนงงหน่อยๆ) พอพิธีกรบอกให้เด็กส่งพานให้ครูรับ ครูฝรั่งรับพาน หลายคนเริ่มน้ำตาคลอเบ้า เพราะพิธีกรบรรยายว่า

นี่เป็นพิธีกรรมฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ขอเป็นลูกศิษย์ที่ดี ขอคุณครูให้ความรู้ ให้ความเมตตา อบรมสั่งสอน”

ครูต่างชาติชาย-หญิง หลายคนเริ่มน้ำตาไหล ซาบซึ้งกับพิธีไหว้ครูในวันนี้ พิธีกรจึงสัมภาษณ์ครูท่านหนึ่งว่า "รู้สึกยังไงบ้างในวันนี้" ครูที่ถูกถามนิ่งไปนานมาก ก่อนจะตอบว่า

ม่คิดว่าความเป็นคนไทยจะอ่อนโยนและอบอุ่นได้ขนาดนี้ บรรยายออกมาได้ไม่หมด รู้สึกประทับใจ ตื้นตันใจที่มองเห็นคุณค่าความเป็นครูของพวกเรา เราได้รับเกียรติสูงสุด ดีใจ ดีใจ ดีใจ …จะร้องให้”

แล้วก็ร้องให้โฮ นี่คือบรรยากาศในหลายๆ โรงเรียนที่มีครูต่างชาติมาสอน เมื่อวันไหว้ครูที่ผ่านมา...

อบอุ่นใจ เด็กไทยแสดงความรักกับครูต่างชาติ

เรียนรู้ภาษา html
isangate banner
easyhome banner
ipst banner
e mil
นโยบายความเป็นส่วนตัว Our Policy

ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา ที่นี่ใช้คุกกี้ (Cookies) เก็บข้อมูล เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)

Our Policy