foto1
ความงดงามการศึกษาไทย
foto1
เพื่อ?
foto1
ไม่เข้าใจ?
foto1
วิทยากรที่กระทรวงศึกษาธิการ สปป.ลาว
foto1
ท่องทะเลทรายที่ดูไบ UAE


Friendly Links

เรียนรู้ภาษา html
isangate banner
easyhome banner
ipst banner
sakdibhornssup foundation
13 Thai free fonts
speedtest
e mil

Facebook Likebox

No. of Page View

dream school

child center 03ารศึกษาไทย "ยิ่งปฏิรูปยิ่งถอยหลัง" ถ้า... เรายังคิดจะยัดเยียดบรรดาสรรพสิ่งที่มีในโลก ลงไปในสมองอันน้อยนิดกับเด็ก เหมือนเรากำลังป้อนอาหารมากมาย หลากหลายรสชาติ ให้อิ่มหมีพีมันในวันเดียว ใยเราไม่บอกสูตรเด็ดให้เขาคิดปรุงเองในวันพรุ่งนี้ เมื่อมองลงไปในวิถีเด็กไทยตั้งแต่อนุบาล ประถม ยันมัธยมศึกษา เราพบว่า มีการยัดเยียดเนื้อหามากมาย เรียนพิเศษคร่ำเคร่งกันแต่วัยเยาว์ แบกกระเป๋าตำรา หนา หนัก ไปโรงเรียนทุกเช้า แล้วเรามีความก้าวหน้าไปมากมายขนาดไหนกัน

ยิ่งได้เห็นหลายท่านที่ปรารภว่า จะต้องเอาชื่อวิชา "ประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง" กลับมาให้ปรากฏในหลักสูตร ก็มีเสียงบอกนักเรียนจะเพิ่มชั่วโมงเรียนมากเกินไป ครับจริงเช่นนั้น แค่นี้ก็เกินกว่า 1,200 ชั่วโมง/ปีไปมากมายนัก เรียนกันตั้งแต่รุ่งเช้ายันดึก จากโรงเรียนปกติและโรงเรียนกวดวิชา บ้างก็ว่าจะต้องเพิ่มหนังสืออ่านนอกเวลา ที่เน้นการปลูกฝังค่านิยมรักชาติ จะได้ประโยชน์อะไรครับ ในเมื่อการอ่านของประเทศเรานั้นต่ำเตี้ยระดับปีละ 8 บรรทัด และที่สำคัญอ่านไม่ออก จับใจความไม่ได้อีกมากมาย โดนถีบหัวส่งให้พ้นๆ ไปเพื่อเพิ่มตัวเลขผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา ผ่านการประเมินระดับยอดเยี่ยมกระเทียมเจียว (ลองคลิกอ่านตรงนี้ซิครับ)

dream school 00

และวันนี้ (15 มิถุนายน 2557) เราได้เห็นปรากฏการณ์ความไร้ระเบียบวินัยของคนในชาติ จากการแย่งบัตรชมภาพยนต์ฟรีเพื่อเติมความสุขคนในชาติ (ดูคลิป) จากสื่อมากมาย โวยวาย แย่งชิง เมื่อไม่ได้ก็ก่นด่า ทั้งๆ ที่เขาก็บอกว่าบัตรเข้าชมมีจำกัดจำนวน นี่คือสิ่งที่ต้องแก้ไขมากที่สุดในแวดวงการศึกษา ระเบียบวินัย เสียสละ รู้สิทธิและหน้าที่ วันนี้ไปเจอ กระทู้ในพันทิพ ที่เขียนถึงการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนระดับประถมศึกษา ในประเทศอังกฤษ แล้วเหมือนมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ขอคัดลอกมาให้อ่านกันดังนี้ครับ

ความแตกต่างการเรียนระดับประถมในไทยกับอังกฤษ

หัวอกคนเป็นพ่อแม่ อยากให้ลูกได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด เท่าที่เราจะสามารถให้ลูกได้

ในฐานะของแม่คนนึง ขออนุญาตเล่าประสบการณ์อันน้อยนิดเท่าที่เราได้พบเห็น รู้สึก และอยากเล่าด้วยความเคารพในระบบการศึกษาไทย และอยากเห็นการพัฒนาการศึกษาของบ้านเรานะคะ

ตอนนี้ลูกอายุได้ 8 ขวบ ได้มีโอกาสมาเรียนโรงเรียนระดับประถมของรัฐบาล ประเทศอังกฤษได้ปีกว่าๆ มีหลายอย่างที่เรารู้สึกว่า อยากกลับไปทำที่บ้านเรา มีบางอย่างที่อยากให้โรงเรียนบ้านเราเป็นอย่างนี้ คือ บางอย่างของเค้าก็อาจไม่เหมาะกับบ้านเรา แต่ก็อยากเล่าในส่วนที่เรารู้สึกว่าเราพอใจ

dream school 06"ตอนอยู่เมืองไทย เด็กน้อยหกขวบ ป.1 ตื่นตั้งแต่หกโมงครึ่ง กินข้าว แต่งตัว ขับรถออกบ้านเจ็ดโมงสิบห้า ถ้าออกบ้านสายหน่อยก็เจ็ดโมงครึ่ง เพื่อให้ไปทันเข้าเรียนแปดโมง ลูกเรียนจนถึงสี่โมงเย็น โรงเรียนให้เรียนพิเศษต่อจนถึงห้าโมง ทุกคนต้องเรียน ถ้าเป็นห้องสองภาษา เราไม่อยากให้ลูกเรียนพิเศษตอนเย็น เพราะรู้สึกว่าเค้าเหนื่อยมากทั้งวัน เพื่อนลูกบางคน คุณแม่เล่าว่าหลับไปในรถหลังจากเลิกเรียน

กระเป๋านักเรียนของลูกเป็นแบบกระเป๋าที่มีล้อ ต้องลากไป เพราะมันหนักมาก เกินกว่าเด็กจะแบกเป้ใส่หลังได้

ห้องเรียนหนึ่งห้อง มีเด็กนักเรียน 55 คน มีคุณครูประจำชั้นหนึ่งคนและคุณครูผู้ช่วยสอนอีกหนึ่งคน

ด้วยลูกเป็นคนตัวโต เค้าต้องไปนั่งหลังห้อง นั่งไกลมาก ห้องเรียนใหญ่มาก จนมองไม่เห็นกระดาน

เนื้อหาการเรียนทุกๆ วิชา มีเนื้อหาอัดแน่นมาก ภาษาไทย สังคม อังกฤษ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์

ทุกๆ วัน ลูกจะได้รับการบ้านในหลายวิชามาก หลังจากลูกกลับมาถึงบ้าน พักผ่อน เราก็อยากพาลูกเดินเล่นออกกำลังกาย จากนั้นก็ต้องเริ่ม การทำบรรยากาศในการทำการบ้าน คืนนี้ยังอีกยาวไกล มาลูกนั่งเร็ว มาทำการบ้านกัน อยากทำอะไรก่อนดีลูก เฮ้อ บางทีลูกก็ง่วงนอน เราก็พยายามให้กำลังใจลูกให้มากที่สุด บางคืนก็ไม่ไหว ไปนอนก่อนแล้วค่อยมาทำพรุ่งนี้เช้าก็แล้วกันนะครับ

ไม่คิดจะโทษโรงเรียน โรงเรียนและคุณครูทุกท่านทุ่มเทและการดูแลลูกศิษย์เป็นอย่างดี

ความกดดันที่โรงเรียนได้รับ เกิดจากความคาดหวังของผู้ปกครองด้วยหรือเปล่า ที่ทำให้โรงเรียนต้องจัดเนื้อหาที่แน่นขนาดนั้นสำหรับเด็กประถม บางครั้งได้ยินที่ผู้ปกครองคุยกัน เปรียบเทียบว่า โรงเรียน ป.1 ต้องลบเลขเป็น คูณเลขได้ ทำไมของเรายังทำไม่ได้ อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนของเด็ก มาวิเคราะห์จริงๆ ว่าเด็กประถม เด็กมัธยม ความรู้ที่เค้าควรได้รับ จริงๆ แล้วควรเป็นอย่างไร

ทุกเช้าต้องปลุกลูก พาลูกแต่งตัว บางครั้งก็ไปกินข้าวในรถนะลูก ลูกงอแงมาก กว่าจะพาขึ้นรถไปโรงเรียน ต้องขับรถไปประมาณครึ่งชั่วโมง เราพยายามจะทำให้เวลาในรถเป็นเวลาคุณภาพ แต่เรารู้สึกว่า จริงๆ แล้ว เราควรมีโรงเรียนที่มีคุณภาพใกล้ๆ บ้านเรา คงจะดีมากสำหรับความรู้สึกของทั้งผู้ปกครองและเด็กตัวเล็กๆ"

dream school 01

ออนุญาตเล่า การเรียนของเด็กประถมที่เมืองเล็กๆ ในประเทศอังกฤษ

โรงเรียนประถมของรัฐ จะรับนักเรียนในเขตที่โรงเรียนดูแล ห้องเรียนหนึ่งห้อง มีนักเรียน 30 คน จะมีคุณครูประจำชั้นหนึ่งคนและคุณครูผู้ช่วยอีกหนึ่งคน กระเป๋านักเรียนลูก แบนมาก มีสมุดบันทึกหนังสือที่ตัวเองอ่าน  1 เล่ม กับหนังสือที่ยังอ่านไม่จบอีกหนึ่งเล่ม ที่เค้าจะต้องไปเลือกที่โรงเรียนเองสัปดาห์ละหนึ่งเล่ม

ลูกอยากไปโรงเรียนทุกวัน ลูกบอกว่า "แม่ ไม่อยากให้ถึงเสาร์อาทิตย์เลย" ชอบไปโรงเรียนมาก ไม่ใช่ว่าลูกเป็นเด็กขยันมากหรืออะไรนะคะ แต่โรงเรียนของลูกมีกิจกรรมเยอะมาก แล้วสนุกมาก ในความรู้สึกของลูก

โรงเรียนของลูกเข้าเรียนเก้าโมงเช้า ลูกเดินไปเรียนใช้เวลาแค่ห้านาที เดินจากบ้าน ไปโรงเรียน โรงเรียนเลิกบ่ายสามโมงครึ่ง ในด้านเนื้อหาความรู้ วิชาที่สอน มีวิชา วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษา ศาสนา สังคม

ห้องเรียนจะแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยๆ แต่ละกลุ่ม คุณครูจะจัดกลุ่มตามพัฒนาการของเด็ก ตามแต่ละวิชา

dream school 04

เช่น ภาษาอังกฤษ ลูกยังไม่เก่ง ลูกอยู่กลุ่มในระดับการเรียนของเพื่อนที่เรียนเท่าๆ กัน ส่วนคนเก่งจะอยู่กลุ่มอื่นๆ ที่มีระดับต่างๆ กัน ลูกชอบเรียนเลข ทำคะแนนได้ดี จะอยู่ในกลุ่มที่เรียนเลขเก่ง ชื่อ fraction คนที่เรียนเลขเก่งเป็นอันดับรองๆ ก็อยู่กลุ่มต่างๆ กันไป เป็นอย่างนี้ทุกวิชา คุณครูจะประเมินเด็กแต่ละคนและจัดกลุ่มตามการเรียนรู้ของเด็ก เด็กที่เรียนไวในแต่ละวิชา เค้าจะได้รับการส่งเสริมในระดับการเรียนของเค้า เด็กเค้าจะไม่เบื่อ ส่วนคนไหนที่อ่อนวิชาอะไร ก็จะได้แบบฝึกหัดและการดูแลจากคุณครูที่เหมาะกับเด็กแต่ละคน คุณครูสอนใกล้ชิดมาก เค้ารู้จักเด็กแต่ละคนเป็นอย่างดี

คุณครูเค้าสอนว่า ทุกคนต้องมีสิ่งที่เก่งไปคนละอย่าง ไม่มีใครดีที่สุดหรือแย่ที่สุด ให้ยอมรับและช่วยเหลือเพื่อน เด็กที่เรียนเก่ง บางครั้งคุณครูจะให้เป็นผู้ช่วยคุณครู เค้าจะภูมิใจมาก

ในสนามเด็กเล่นที่โรงเรียน จะมีป้าย Friend stop เหมือน Bus stop คนไหนเหงา ไม่มีเพื่อนเล่น ให้มายืนตรงนี้ จะมีเด็กที่เค้าเป็นอาสาสมัครมาพาไปเล่น ลูกอยากเป็น buddy คนที่คอยเล่นกับเพื่อน และอยากเป็น green volunteer เป็นคนที่คอยเก็บขยะก่อนเข้าเรียน คนที่ทำเพื่อคนอื่น เพื่อส่วนรวม จะได้รับการชื่นชมอย่างมากในโรงเรียน

ทุกๆ เย็นวันศุกร์จะมีการให้รางวัล star of the week แต่ละห้อง คุณครูจะเลือกคนที่เป็น star of the week แล้วให้เพื่อนๆ ทุกคนเขียนความดีของเพื่อนคนนั้น แล้วให้เด็กน้อยที่ได้รับรางวัล เลือกความเห็นที่ชอบที่สุดสามอัน แล้วครูจะประกาศในโรงเรียน รางวัลคุณครูให้จาก คนที่พูดจาสุภาพ มีน้ำใจ ขยันเรียน เด็กจะมองเห็นสิ่งที่ดีในตัวเพื่อน และเห็นว่าสิ่งที่ดีเป็นอย่างไร

ด้านจิตใจ เค้าจะรับฟังความคิดเห็นของเด็กมาก เด็กทุกคนจะมีความสุข มีพลังในการเรียน เค้าจะเน้นให้เด็กคิด วิเคราะห์ มีส่วนร่วมมากๆ เช่น วันนี้มีเพื่อนที่ต้องย้ายโรงเรียนไป ทุกคนจะเขียนการ์ดให้เพื่อน และคุณครูสอนเรื่อง การเปลี่ยนแปลง คุณครูสอนเด็กว่า การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดาที่เราต้องเจอ เช่น เมื่อวานเพื่อนเราคนนี้อยู่ที่นี่ แต่วันนี้เพื่อนไม่อยู่แล้ว นี่คือความแตกต่าง ตอนแรกเราจะรู้สึกเศร้า ต่อมาเราจะรู้สึกหายเศร้า เค้าสอนจากชีวิตจริง

dream school 05

วันนี้เรียนเรื่องอวกาศ คุณครูขออนุญาตผู้ปกครองพาไป Space centre เด็ก ได้เห็นยานอวกาศจริงๆ สนุกจนไม่อยากกลับบ้าน มีครั้งนึงเรียนเรื่อง รถจักรไอน้ำ คุณครูจะให้เขียนการบ้านก่อนไปทัศนศึกษา ว่าอยากเห็นอะไร แล้วก็พาไปพิพิธภัณฑ์รถจักรไอน้ำ หลังจากนั้นก็จะได้ทำการบ้านว่า ประทับใจอะไร เรียนรู้อะไรจากการไปทัศนศึกษา

ลูกเรียนเรื่อง วงจรไฟฟ้า เข้าใจภายในบ่ายวันเดียว

ห้องเรียนห้องไหนมาเรียนสม่ำเสมอ เกิน 98% ได้รางวัลไปดูหนังทั้งห้อง เป็นต้น

วันนี้วิชาวิทยาศาสตร์ครับแม่ เรียนเรื่อง กระดูก คุณครูเอาโครงกระดูกจริงๆ มาให้เรียน ลูกร้องเพลงเกี่ยวกับกระดูก ลูกรู้จักชื่อกระดูกหลักๆ เกือบทุกอัน จากการเรียนหนึ่งวัน มีการทำงานศิลปะ เป็นรูปโครงกระดูกและให้เด็กๆ แสดงละคร เกี่ยวกับกระดูก วันนี้เรียนเรื่องรามเกียรติ์ ทำหุ่นกระดาษทศกัณฑ์กับสีดา กลับมาก็อยากอ่านหนังสือเรื่องนั้นต่อ

เด็กจะต้องอ่านหนังสือทุกวัน วันละครึ่งชม.ที่โรงเรียน ถ้าเด็กอ่านที่บ้านก็จะมีสมุดบันทึก ถ้าอ่านครบตามที่ครูกำหนดก็จะได้ใบ certificate คือไม่ได้เป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่หรือซับซ้อน แต่เป็นการให้กำลังใจเด็กอย่างง่ายๆ และเป็นรูปธรรม เด็กจะมีเวลาอ่านหนังสือ ทำความเข้าใจกับสิ่งที่คุณครูสอนมาก

การเรียน จะเรียนจากการเห็นของจริง เห็นทุกอย่าง จากของจริง เค้าสอนง่ายๆ ให้เด็กสนุก สนใจ เด็กจะคิดตามและเข้าใจด้วยตัวเค้าเอง

ถ้าเด็กถาม เท่าที่สังเกตเค้าจะไม่ดุเด็ก แต่จะฟังและอธิบายในสิ่งที่เด็กถาม ในวันประชุมผู้ปกครองคุณครูให้เด็กถามก่อน เด็กๆ แต่ละคนถามคำถามดีมาก ถามด้วยความสนใจ แต่ทุกคนมีมารยาทและสุภาพ

มีครั้งนึง ได้ไปเล่าเรื่อง บ้านในเมืองไทย ในห้องเรียนของลูก เด็กๆ ทุกคนน่ารักมาก มาขอบคุณ มากอด

ตอนแรกคิดว่าลูกจะได้เรียนอะไรบ้างหนอ รู้สึกกิจกรรมเยอะจริงๆ แต่พอได้ดูสมุดงานที่ลูกทำในแต่ละเทอม รู้สึกว่าคุณครูใส่ใจมาก ให้กำลังใจลูกเรามาก ที่นี่สวัสดิการคุณครูดีมาก คุณครูเป็นอาชีพที่มีเกียรติมาก เงินเดือนของแต่ละอาชีพไม่ต่างกันมาก และมีการอบรมคุณครูค่อนข้างบ่อย

dream school 02

ที่ชอบมากคือ ทุกๆ ชุมชน จะต้องมีสวนสาธารณะ มีเครื่องเล่น และสนามเด็กเล่นสำหรับเด็กที่มีคุณภาพดีมากๆ อยู่ในชุมชนนั้น เด็กๆ ได้ไปเล่น เจอเพื่อน ออกกำลังกาย เค้าแข็งแรงขึ้น ได้เล่นทุกๆ เย็นหลังเลิกเรียน

ที่นี่ก็มีการประกันคุณภาพการศึกษาเช่นกัน เค้าจะมีการรายงานบอกว่าโรงเรียนไหน อยู่ระดับใดบ้าง เราสามารถเลือกสมัครโรงเรียนที่ได้รับการประเมินในระดับดีมากก็ได้ แต่เค้าจะพิจารณาจากที่อยู่ของบ้านเราเป็นหลัก

โดยสรุปก็คือ อยากเห็นโรงเรียนที่มีคุณภาพในทุกชุมชน เด็กได้มีความสุขกับการเรียน คุณครูได้รับการดูแลอย่างดีจากรัฐ เพราะคุณครูคือคนที่สำคัญที่สุด ในการเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กรักการเรียน

ด้วยความเคารพจากใจ คุณครูของเรามีศักยภาพ มีความรักที่จะทำให้เด็กทุกคนมีความรู้และความสุขกับการเรียน เค้าจะโตมาเป็นคนดี ทำงานอะไรก็ได้ที่เค้ารักในงานนั้น

ที่สำคัญคือ อยากให้ไม่ซ้ำเติมคนที่เรียนอ่อน คนที่เรียนไม่เก่ง เค้าอาจจะกลายเป็นเด็กที่มีปัญหาต่อสังคม เด็กที่เรียนไม่เก่งเค้าอาจเก่งด้านอื่นๆ ในแบบของเค้า ขอให้เค้าเป็นคนดี เค้าอาจไม่เก่งในแบบที่สังคมคาดหวัง เช่น สังคมคาดหวังว่าเด็กเรียนเก่งต้องเป็นแพทย์ วิศวกร มันไม่จำเป็น เค้าจะเป็นอะไรก็ได้ขอให้มีความรักในงาน เลี้ยงตัวเองได้ มีความภูมิใจในชีวิตของเค้า

ความรู้สึกของคุณแม่คนหนึ่งคือ เราจะช่วยกันได้อย่างไร ขอเริ่มจากการศึกษา ให้เด็กมีความสุขกับการเรียน มีระบบการจัดการที่เป็นระบบที่ดี รูปแบบการเรียนที่สร้างให้เด็กรักในการเรียน ควรเป็นอย่างไร ขอสวัสดิการรัฐดูแล อยากให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ปลอดภัย มีโรงเรียนที่ดี เด็กๆ มีสังคมที่ดี

dream school 03

เป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ คุณครู เด็กๆ ทุกคนนะคะ

 ที่มา : กระทู้จากเว็บไซต์พันทิพดอทคอม

ขอจบบทความนี้ที่คลิปวีดิโอจากรายการ "กขคง ข้อนี้ไม่มีคำตอบ" จากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ออกอากาศทุกวันอาทิตย์นะครับ ตอน คำสัญญาที่ว่างเปล่า

นโยบายความเป็นส่วนตัว Our Policy

ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา ที่นี่ใช้คุกกี้ (Cookies) เก็บข้อมูล เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)

Our Policy