สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ขนาด)

การเดินทางทางอากาศ ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจโลก เป็นวิธีการเดินทางระยะไกลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด สามารถพานักเดินทาง นักท่องเที่ยว นักธุรกิจ หรือบุคลากรทางทหาร ไปยังจุดหมายปลายทางได้รวดเร็ว และปลอดภัยมากกว่าทางรถไฟ ทางถนน หรือทางน้ำ การขนส่งทางอากาศยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขนส่งสินค้าที่ไม่ใช่มนุษย์ เช่น จดหมาย สินค้า และน้ำหนักบรรทุกทางการทหาร ส่งผลให้เมืองต่างๆ ทั่วโลกปรับตัวอย่างรวดเร็ว สร้างสนามบินขนาดมหึมา และสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับการขนส่งทางอากาศที่มีราคาย่อมเยา

สนามบินใดใหญ่ที่สุดในโลก?

ในการตอบคำถามนั้น ก่อนอื่นต้องนิยามคำว่า “ใหญ่ที่สุด” ก่อน ปกติเราจะแบ่งสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ออกเป็น 3 แบบ คือ 1) ขนาดจริงของพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุด 2) จำนวนผู้โดยสารมากที่สุด และ 3) ปริมาณรวมสูงสุด (จำนวนเที่ยวบิน) โดยในบทความนี้จะว่าด้วย “ขนาดพื้นที่” ก่อนเป็นอันดับแรก

ใครที่เคยเดินทางท่องเที่ยวไปในหลายๆ ประเทศ ก็จะได้พบความใหญ่โตของสนามบินในแต่ละแห่ง แต่ละประเทศ ซึ่งต้องร้องบอกว่า “ช่างเป็นสนามบินที่ใหญ่โตโอฬารกระไรเช่นนี้” คนไทยในต่างจังหวัดที่เดินทางเช้ากรุงเทพฯ เมื่อครั้งอดีตก็มองว่า “สนามบินดอนเมือง” ของไทยเรานั้นใหญ่โตมาก แต่พอมี “สนามบินสุวรรณภูมิ” ขึ้นมา ถึงได้ทราบว่า นี่สิใหญ่กว่า ที่ต้องเดินไกลจากทางเข้าสนามบินไปยังประตูทางออกขึ้นเครื่อง (Gate) ต่างๆ นั้นก็ช่างไกลเหลือเกิน เดินเหนื่อยมาก (ขนาดมีทางเลื่อนอยู่เป็นระยะๆ แล้วก็ตาม) ไกลมากเสียจนอยากรู้ว่า “สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก” มันอยู่ที่ประเทศไหนกันนะ แล้วมันจะใหญ่ขนาดไหนกันเชียว

ปัจจุบัน ในแต่ละประเทศก็มุ่งให้ “สนามบิน” ของตนนั้นยิ่งใหญ่ ด้วยการออกแบบที่ทันสมัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เปรียบเสมือนหน้าตาของประเทศที่ไว้ใช้ต้อนรับนักท่องเที่ยว หรือเรียกง่ายๆ ว่ามันเป็น First Impression หรือความประทับใจแรก ที่คนซึ่งก้าวขาเข้ามาในประเทศนั้นๆ จะได้เห็นเป็นอันดับแรก แต่ละประเทศก็ต่างพากันสร้างสรรค์สนามบินใหม่ๆ ของตนเองให้ออกมาอลังการงานสร้างเพื่อจุดประสงค์นี้

เชื่อกันไหมว่า สนามบินบางแห่งถึงกับมีสนามกอล์ฟเป็นของตัวเอง ตั้งอยู่ท่ามกลางรันเวย์เลยทีเดียว อาจจะคิดไม่ถึงเลยสิว่า มันคือสนามบินที่เราคุ้นหน้าคุ้นตา รู้จักกันเป็นอย่างดี นั่นคือ “สนามบินดอนเมือง DMK นี่เอง

ไม่ใช่แค่นี้นะ มีสนามบินบางแห่งมีโรงภาพยนตร์เอาไว้ต้อนรับผู้ที่มาเปลี่ยน หรือต่อเครื่องด้วย และหนึ่งในนั้นก็เป็นสนามบินใกล้ๆ บ้านเราอย่าง Changi International Airport ของสิงคโปร์ รวมถึง Hong Kong International Airport ในฮ่องกงและ Incheon International Airport ของเกาหลีใต้

แต่สนามบินที่กล่าวถึงนี้ ก็ไม่ใช่สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกหรอกนะ วันนี้จะมาแนะนำว่า สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก 10 อันดับแรกนั้น ตั้งอยู่ที่ไหน เป็นของประเทศอะไร ซึ่งจะจัดอันดับตามความกว้างใหญ่ของสนามบินเป็นหลัก ไม่รวมกับจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการในแต่ละปี มีดังนี้

Top 10 Largest Airports in the World by Land Area (in square miles):

  • King Fahd International (DMM) — Dammam, Saudi Arabia — 776 km2 (299.61 mi2)
  • Denver International (DEN) — Denver, CO United States — 135.7 km2 (53.09 mi2)
  • Dallas/Fort Worth International (DFW) — Dallas, TX United States — 69.6 km2 (26.88 mi2)
  • Orlando International (MCO) — Orlando, FL United States — 53.8 km2 (20.78 mi2)
  • Washington Dulles International (IAD) — Washington D.C., United States — 48.6 km2 (18.75 mi2)
  • Beijing Daxing International (PKX) — Beijing, China — 46.6 km2 (18 mi2)
  • George Bush Intercontinental (IAH) — Houston, TX United States — 44.5 km2 (17.19 mi2)
  • Shanghai Pudong International (PVG) — Shanghai, China — 39.9 km2 (15.4 mi2)
  • Cairo International (CAI) — Cairo, Egypt — 36.3 km2 (14 mi2)
  • Suvarnabhumi International (BKK) — Bangkok, Thailand — 32.4 km2 (12.51 mi2)

1. King Fahd International Airport (DMM)

สนามบินนานาชาติ King Fahd ( อาหรับ : مطارالملكفهدالدولي ; abbr. KFIA) ( IATA : DMM , ICAO : OEDF ) ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ สนามบินนานาชาติ Dammam สนามบินนี้ตั้งอยู่ห่างออกไป 31 กิโลเมตร ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง Dammam และตั้งชื่อตามอดีตกษัตริย์แห่งซาอุดิอารเบีย (ฟาฮัด อับดุลอาซิอิบัน) เป็นหนึ่งในสนามบินนานาชาติหลักสามแห่งในซาอุดิอารเบีย King Fahd International ยังเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยแยกตามพื้นที่ ด้วยขนาดพื้นที่สนามบินประมาณ 776 ตารางกิโลเมตร แม้ว่าตัวอาคารสนามบินจะมีขนาดเพียง 36.75 ตารางกิโลเมตร (เดิมเป็นฐานทัพอากาศของสหรัฐอเมริกา ที่ใช้เป็นหลักในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย สนามบินได้ให้การปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542)

และนี่คือ สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังคงรั้งตำแหน่งเดิมไว้อยู่ตั้งแต่ปี 1999 (พ.ศ. 2542) เป็นต้นมา สนามบิน King Fahd International Airport ตั้งอยู่ในเมืองอัดดัมมาม ประเทศซาอุดีอาระเบีย เอาเป็นว่าเรื่องของขนาดคือ กินขาดสนามบินอื่นๆ ไปเลย แต่สนามบินนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวใช้บริการแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด และมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาแค่ปีละ 9 ล้านคนเท่านั้น มันจึงอาจจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวเท่าไหร่นัก

สนามบินให้บริการ 2 รันเวย์ ซึ่งมีความยาว 4 กิโลเมตร (2.5 ไมล์) และประกอบด้วยอาคารผู้โดยสาร 3 อาคาร

  • อาคารผู้โดยสารให้บริการผู้โดยสารทั่วไป
  • อาคารผู้โดยสาร Aramco ใช้งานโดยพนักงานของ Aramco เพื่อขึ้นเครื่องเที่ยวบิน Saudi Aramco Aviation
  • Royal Terminal สงวนไว้สำหรับใช้โดยราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย

สิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษ คือ มัสยิด สร้างขึ้นบนหลังคาของที่จอดรถ และอยู่ตรงกลางของพื้นที่ภูมิทัศน์ 46,200 ตารางเมตร (497,292 ฟุต²) สถาปัตยกรรมของมัสยิดเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ กับองค์ประกอบสถาปัตยกรรมอิสลามแบบดั้งเดิม มัสยิดสามารถรองรับผู้มาสักการะได้ถึง 2,000 คนและสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย จากอาคารผู้โดยสารผ่านสะพานปรับอากาศสองแห่ง ที่ปิดล้อมพร้อมด้วยสายพานเคลื่อนย้ายนอกเหนือจากสะพานเปิดแห่งที่สาม

สายการบินที่ประจำการ และใช้เป็นฐานการบินที่นี่ คือ Saudi Arabian Airlines, Flynas (สายการบินต้นทุนต่ำของ Saudi)

2. Denver International Airport (DEN)

สนามบิน Denver International Airport สนามบินขนาดใหญ่ถัดมา ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา และเคยเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกอันดับ 2 เมื่อหลายปีก่อน นอกจากนี้ยังเคยได้รับการโหวตให้เป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลก จัดอันดับโดย Skytrax เมื่อปี 2018 ด้วย

ความโดดเด่นสุดยอดของที่นี่คือ การใช้พลังงานสะอาดทดแทนด้วยแสงอาทิตย์ จากระบบโซล่าเซลล์เป็นหลัก แต่จุดเด่นของที่นี่เลยคือเรื่องของ Wi-Fi สนามบินแห่งนี้ให้บริการ Wi-Fi แบบเต็มพลังสุดๆ จนคนอเมริกันบอกกันเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า สนามบินนี้มีการให้บริการอินเตอร์เน็ตแบบ Wi-Fi ที่เร็วที่สุดในอเมริกาเมื่อเทียบกับสนามบินอื่นๆ ในประเทศ

ถ้าเพื่อนๆ มาเยือนประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว จำเป็นต้องใช้บริการสายการบินในประเทศ ที่นี่จะเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางในการเปลี่ยนเครื่อง สายการบินที่ประจำการที่นี่หลักๆ เลยก็คือ United Airlines

3. Dallas Fort Worth International Airport (DFW)

สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกอันดับ 3 อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ระหว่างเมืองดัลลัส และฟอร์ท เวิร์ท ของรัฐเท็กซัส แน่นอนว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกของสนามบินครบครันเหมือนกับสนามบินอื่นๆ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า มันเป็นสนามบินที่เหนือกว่าที่อื่นเลยก็คือ “โรงแรมสัตว์เลี้ยง” ทำให้สนามบินนี้เป็นที่ชื่นชอบของบรรดา “ทาส” ที่ใส่ใจในความรักต่อหมาแมวยิ่งนัก สามารถพกสัตว์เลี้ยงแล้วนำมาฝากไว้ที่สนามบินนี้ได้ ทางสนามบินจะใส่ใจในทุกรายละเอียด ถือว่าสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกหนึ่งของครอบครัว ที่กำลังเป็นเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้คนยุคนี้ที่เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนี้ ยังให้ความสะดวกสบายกับนักท่องเที่ยวเพื่อที่จะเดินทางเข้าเมืองไว้หลายรูปแบบเลย ทั้งรถประจำทาง รถไฟ รวมถึงรถราง เลือกเอาได้ตามใจ แต่หนึ่งสิ่งที่เพื่อนๆ ต้องระวัง ด้วยความที่สนามบินใหญ่ขนาดนี้ ก็จะมี terminal หรือทางเข้าออกอยู่หลายแห่งมาก โดยที่นี่มีถึง 5 เทอร์มินัล เพราะฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยและกันหลง อยากให้เผื่อเวลาในการใช้บริการกันไว้ให้มากสักหน่อย โดยสายการบินหลักที่ทำการที่นี่ก็คือ American Airlines

4. Orlando International Airport (MCO)

ท่าอากาศยานนานาชาติออร์แลนโด (Orlando International Airport) ตั้งอยู่ที่ออเรนจ์เคาน์ตี ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ห่างจากตัวเมืองออร์แลนโดไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นท่าอากาศยานที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดของฟลอริดา และยังเป็นท่าอากาศยานหลักของ Silver Airways สถานีฐานของ JetBlue, Southwest Airlines, Spirit Airlines

เดิมทีสนามบินแห่งนี้สร้างขึ้น เพื่อใช้เป็นสถานที่อำนวยความสะดวกของ กองทัพอากาศสหรัฐ และเริ่มปฏิบัติการทางทหารในปี พ.ศ. 2485 ในชื่อ Orlando Army Air Field #2 เปลี่ยนชื่อเป็น Pinecastle Army Airfield ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2486 เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 Pinecastle ถูกใช้เป็นเวลาสั้นๆ เพื่อทดสอบการร่อนของ Bell X-1 จากเครื่องบิน B-29 จนกระทั่งเปิดใช้งานอีกครั้งในช่วงสงครามเกาหลี ในฐานะศูนย์บัญชาการกองทัพอากาศเชิงกลยุทธ์ (SAC) ในปี พ.ศ. 2505 ภายใต้การจัดการร่วมกันของกองทัพอากาศ และทางการของเมืองออร์แลนโด เพื่อใช้พื้นที่ทางลาดของสายการบินที่เกี่ยวข้อง ที่มุมตะวันออกเฉียงเหนือของสนามบิน เพื่อเปลี่ยนเป็นอาคารผู้โดยสารสำหรับการบินพลเรือน

สายการบินประจำ ณ สนามบินแห่งนี้คือ Delta Air Lines, Eastern Air Lines, National Airlines และ Southern Airways

5. Washington Dulles International (IAD)

สนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับที่ห้าของโลกตามขนาด คือ สนามบินนานาชาติ Washington Dulles ตั้งอยู่ระหว่างเมืองชานทิลลี ในแฟร์แฟกเคาน์ตี และดัลเลส ในลูดอนเคาน์ตี รัฐเวอร์จิเนีย ห่างจากวอชิงตัน ดี.ซี. ไปทางตะวันตกประมาณ 41.8 กิโลเมตร ในประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดดำเนินการสนามบินในปี พ.ศ. 2505 ตั้งชื่อตาม John Foster Dulles รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา คนที่ 52

อาคารผู้โดยสารของสนามบินประกอบด้วย อาคารผู้โดยสารหลัก (ซึ่งรวมถึงประตูเดิมสี่ประตู) และอาคารผู้โดยสารคู่ขนานสองอาคาร คือ อาคารเทียบเครื่องบิน A/B และ C/D อาคารผู้โดยสารทั้งหมดมีประตูขึ้นเครื่อง (Gate) ทั้งหมด 139 ประตู ซึ่งผู้โดยสารสามารถขึ้นหรือลงโดยใช้ทางเดินขึ้นเครื่องปกติ และโดยพาหนะโดยสารของสนามบิน รองรับผู้โดยสาร 60,000 คนต่อวัน บินไปยังจุดหมายปลายทางกว่า 125 แห่งทั่วโลก เป็นท่าอากาศยานหลักของ United Airlines และเป็นท่าอากาศยานสำคัญของ Jetblue Airways

6. Beijing Daxing International Airport (PKX)

แม้ว่า สนามบินนานาชาติ Beijing Daxing จะมี “อาคารผู้โดยสารสนามบินแบบอาคารเดียว” ที่ใหญ่ที่สุด แต่พื้นที่ที่อาคารผู้โดยสารตั้งอยู่นั้น มีขนาดอยู่ในลำดับที่ 6 ของสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อพิจารณาจากขนาดที่ดิน อาคารผู้โดยสารที่ออกแบบเป็นรูป “ปลาดาว” ใช้พื้นที่กว่า 18 ตารางไมล์ และใช้เงินในการสร้าง 11,000 ล้านดอลลาร์

เป็นสนามบินขนาดใหญ่ และทันสมัยล่าสุดของประเทศจีน อีกเพียงนิดเดียว ก็แทบจะกลายเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ถ้าพูดถึงเรื่อง “การใช้งานและเนื้อที่” ของมัน เป็นสนามบินแห่งใหม่ของกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งมาพร้อมความอลังการ ที่ทำให้ทั่วโลกต้องตะลึงบนเนื้อที่มหาศาลที่ทางการจีนจัดสรรมา การันตีความสวยงามของโครงสร้างอาคาร ด้วยนักออกแบบระดับโลก คือ Zaha Hadid สถาปนิกชื่อก้องโลก ที่มีผลงานทั้งด้านแฟชั่นและด้านสถาปัตยกรรมเด่นๆ ทั่วโลก

สนามบินแห่งนี้เป็นผลงานชิ้นเอกของ ซาฮา ที่มีทั้งความเป็นวัฒนธรรมจีน ผสมกับความโมเดิร์นในรูปแบบงานของเธอ  ไม่ใช่แค่เรื่องงานออกแบบโครงสร้างสนามบินสุดอลังการ ทางการของจีนยังเตรียมการรองรับผู้โดยสาร ที่คาดว่าจะมีมากถึง 100 ล้านคนต่อปี ไว้ด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินความเร็วสูง ที่จะขนส่งนักท่องเที่ยวเข้าสู่เมือง ทางด่วนสำหรับรถยนต์โดยสารสาธารณะ เนื่องจากสนามบินนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ในปักกิ่ง แต่ตั้งอยู่ในเขตชานเมือง Daxing ซึ่งติดกับปักกิ่งแทน

เมื่อสนามบิน PKX เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2562 สนามบินแห่งนี้กลายเป็นสนามบินนานาชาติแห่งที่สองของปักกิ่ง โชคไม่ดีที่เกิดภาวะการระบาดของโรคโควิด ทำให้การเดินทางทั่วโลกหยุดชะงักลง แต่ก็คาดกันว่า ในปี พ.ศ. 2566 นี้ Beijing Daxing International Airport จะเป็นหนึ่งในสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดในโลกในอนาคตอันใกล้ โดยมีเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทาง 120 แห่ง

ส่วนสายการบินที่จะมาประจำการหลักในสนามบินแห่งนี้ ก็มีถึงสองสายการบิน ซึ่งเป็นสายการบินหลักของชาติ อย่าง China Southern Airlines และ China Eastern Airlines

7. George Bush Intercontinental Airport (IAH)

สนามบินขนาดใหญ่ 1 ใน 5 แห่งของอเมริกา ที่ติดอันดับสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ สนามบินนานาชาติ จอร์จ บุช อินเตอร์คอนติเนนตัล ในเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส เดิมชื่อ สนามบินนานาชาติฮุสตัน และเปลี่ยนชื่อตาม George HW Bush ประธานาธิบดีคนที่ 41 ของสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2540

เริ่มเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2512 อยู่ห่างจากตัวเมืองฮุสตัน รัฐเทกซัส ห่างออกไปทางเหนือของตัวประมาณ 37 กิโลเมตร สนามบินครอบคลุมพื้นที่ 44.5 ตารางกิโลเมตร มีอาคารผู้โดยสารและรันเวย์ 5 แห่ง เป็นท่าอากาศยานที่มีความสำคัญเป็นอันดับ 2 รองจากท่าอากาศยานนานาชาติดัลลาส-ฟอร์ทเวิร์ธ และยังเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของสายการบิน Continental Airlines และเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญของสายการบิน United Airlines ด้วย

มีบริการรถไฟใต้ดินและทางเดินลอยฟ้า ช่วยให้ผู้คนกว่า 45 ล้านคนเดินทางผ่านอาคารผู้โดยสาร 5 แห่งของสนามบิน George Bush Intercontinental Airport ทุกปี

8. Shanghai Pudong International Airport (PVG)

สนามบินแห่งที่ 2 ของจีนที่ติดอันดับคือ สนามบินนานาชาติ Shanghai Pudong ในเซี่ยงไฮ้ เป็นหนึ่งในสองสนามบินหลักในเมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 40 ตารางกิโลเมตร และมีรันเวย์ 6 แห่ง และอาคารผู้โดยสาร 3 แห่ง เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2542 สนามบินผู่ตง เป็นสนามบินศูนย์กลางที่เติบโตอย่างรวดเร็ว สำหรับทั้งการรับส่งผู้โดยสารและสินค้า สนามบินที่มีธุรกิจด้านการบินมากเป็นอันดับสามของโลก เมื่อพิจารณาจากปริมาณการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร

ท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ผู่ตง เป็นประตู หรือเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างประเทศ ที่พลุกพล่านที่สุดของจีน ได้ต้อนรับผู้โดยสารมากกว่า 35 ล้านคนทุกปี และยังอยู่ในรายชื่อสนามบินพิเศษ ที่บินไปยังจุดหมายปลายทางกว่า 200 แห่งทั่วโลก

9. Cairo International Airport (CAI)

สนามบินนานาชาติไคโร ตั้งอยู่ในกรุงไคโร เมืองหลวงของประเทศอียิปต์ เป็นหนึ่งในสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดในแอฟริกา ในแง่ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 37 ตารางกิโลเมตร เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2506 เป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับสองในแอฟริกา ปัจจุบันมีอาคารผู้โดยสารหลัก 3 แห่ง และอาคารผู้โดยสารตามฤดูกาลสำหรับผู้โดยสาร 15 ล้านคน ที่บินเข้าและออกจากสนามบินนานาชาติไคโร (CAI)

เป็นศูนย์กลางหลักของ Egyptair และ Nile Air รวมถึงสายการบินอื่นๆ อีกหลายแห่งในย่านแอฟริกา

10. Suvarnabhumi Airport (BKK)

สนามบินสุดท้ายของ 10 อันดับ “สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ตกเป็นของ สนามบินสุวรรณภูมิ ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ของเรานี่เอง

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คือชื่ออย่างเป็นทางการ อันเป็นนามพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ชื่อ “สุวรรณภูมิ” จากคำภาษาสันสกฤตที่แปลว่า “แผ่นดินทอง” เรียกแบบไม่เป็นทางการว่า “ท่าอากาศยานกรุงเทพฯ” เป็นท่าอากาศยานหลักแห่งหนึ่งของประเทศไทย เปิดให้บริการในปี 2549 ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 32 ตารางกิโลเมตร เป็นหนึ่งในสนามบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค

สนามบินเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในปี 2549 และมีสายการบินกว่า 95 สายที่ให้บริการรองรับผู้โดยสารมากกว่า 50 ล้านคนในแต่ละปี โดยเป็นฐานการบินหลักของ การบินไทย Thai Airways

ที่มา : https://www.worldatlas.com/articles/the-world-s-10-largest-airports-by-size.html

Loading

About Post Author

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

error

Enjoy this blog? Please spread the word :)